Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2539
"อัครพงษ์ ไทยานนท์ ถึงเวลาของเขาแล้วแม่ทัพใหม่ "เพรีกรีนนิธิ"             
 


   
search resources

เพรีกรีนนิธิ
อัครพงษ์ ไทยานนท์
Financing




เดือนเมษายนนี้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เพรีกรีนนิธิจะบุกธุรกิจเงินทุนอย่างเป็นทางการภายใต้การบริหารงานของแม่ทัพหนุ่มมืออาชีพ คืออัครพงษ์ ไทยานนท์ ขณะที่ศรีพร สุทธิพงษ์ เป็นกรรมการผู้จัดการสาวหน้าหวานเสียงใสยังคงดูแลธุรกิจหลักทรัพย์

นี่คือนิมิตหมายของการเตรียมตัวขยายอาณาจักรสินทรัพย์ธุรกิจใหญ่โตในอนาคตอันใกล้ เพื่อการแยกเป็นบริษัทเงินทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ เพรีกรีน นิธิ

สำหรับคนทิสโก้ชื่ออัครพงษ์ ไทยานนท์เป็นที่รู้จักกันดี เพราะอัครพงษ์ทำงานทิสโก้ไม่ต่ำกว่า 11 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อที่สานสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี จนเป็นที่จับตาของแมวมองเฮดฮันเตอร์ที่มองหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ด้านธุรกิจเงินทุนให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ตะวันออกหรือที่รู้จักกันในนามภาษาอังกฤษ ว่า "เพรีกรีน นิธิ" อันเกิดจากความร่วมมือระหว่าง บงล. นิธิภัทรกับพันธมิตรธุรกิจอย่างเพรีกรีน ซีเคียวริตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท โอสถสภา โฮลดิ้ง บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ และกลุ่มบริษัทไทยวาที่ร่วมกันซื้อหุ้นส่วนใหญ่ บงล. ตะวันออกในปี 2535-2536

เพรีกรีนนิธิจึงเป็นน้องใหม่อายุสามขวบที่มีใบอนุญาตทำธุรกิจได้ครบ 8 ใบแต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเพรีกรีนนิธิจะเน้นทำธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งกลุ่มเพรีกรีนมีความเชี่ยวชาญผลกำไรปี 2537 กำไรเพิ่มขึ้น 76% จากปี 2536 และปีที่แล้วก็มีกำไรเพิ่มขึ้น 110% จากปี 2537 แม้จะประสบปัญหาสภาวะซบเซาของตลาดหุ้นไทย

"เราหวังว่าปี 2539 นี้ไม่ควรน้อยหน้าปีที่แล้วเพราะปีนี้เราจะเน้นหนักด้านธุรกิจเงินทุนซึ่งได้คุณอัครพงษ์มาเป็นเอ็มดีและเริ่มทำงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะเดียวกันปีนี้เราจะทำธุรกิจควบคู่กับธุรกิจ FIX INCOME ซึ่งกลุ่มเพรีกรีนเป็นผู้นำในการทำธุรกิจตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชียนี้ นอกจากนี้เรายังมีวาณิชธนกิจ (อินเวสเมนท์แบงกิ้ง) ที่มีดีลสำคัญระดับข้ามชาติที่จะดึงมาลงทุนในไทย" ศรีพร สุทธิพงษ์ กรรมการผู้จัดการด้านธุรกิจหลักทรัพย์เล่าให้ฟัง

จากทิสโก้ อังครพงษ์เริ่มต้นที่เพรีกรีนนิธิในเดือนตุลาคม ช่วงสามเดือนแรกอัครพงษ์ได้ระดมสร้างทีมงานของเขาขึ้นมาที่ตั้งไว้ต่ำกว่า 50 คน โดยเริ่มต้นชักชวนเพื่อนเก่าอย่างวรศักดิ์ พิทธวงศ์เข้ามาเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ วรศักดิ์ผู้นี้ท่องยุทธจักรการเงินถึง 14 ปี โดยเริ่มต้นชีวิตทำงานที่ทิสโก้ที่ซึ่งเขาเคยร่วมงานกับอัครพงษ์ 6 ปี และย้ายมาอยู่สินอุตสาหกรรม 2 ปี จากนั้นหาญเกียรติเฟื่องฟูก็ชวนมาทำเอกสิน ก่อนที่จะมาที่เพรีกรีนนิธิ

"แผนปีแรกเราตั้งเป้าไว้ 4 พันล้าน อย่างแรกเราต้องขยายสินทรัพย์ใหญ่ขึ้นพอที่จะทำธุรกิจต่าง ๆ ได้ เงินทุนจดทะเบียนที่ 500 ล้านบาทนั้นทำให้เราปล่อยสินเชื่อได้เพียงรายละ 100 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ทำให้เราต้องทำงานหนักเพื่อหาลูกค้ามากรายขึ้น แต่คิดในแง่ดีก็ทำให้เราสามารถสานสัมพันธ์ลูกค้าได้มากขึ้น ทำธุรกิจได้มาก ฐานลูกค้าเก่าเราก็มี แต่ก็ต้องหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่จะทำให้ขยายฐานได้กว้างขึ้น" แม่ทัพใหม่ด้านธุรกิจเงินทุนของเพรีกรีนนิธิเล่าให้ฟัง

การปรับตัวของเพรีกรีนนิธิในการรุกตลาดธุรกิจเงินทุนในยุคเปิดเสรีการเงินนี้ กลุ่มเพรีกรีนที่ฮ่องกง คือขุมพลังอันแข็งแกร่ง ที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายที่จะสนับสนุนทิศทางการปล่อยสินเชื่อแบบคอร์ปอเรทไฟแนนซ์ที่เจาะพื้นที่ลูกค้าอุตสาหกรรม ลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล และลูกค้ารายย่อยในแต่ละพื้นที่ลูกค้าอย่างน่าจับตา

ขณะเดียวกันธุรกรรมทางการเงินที่กลุ่มเพรีกรีน เชี่ยวชาญ อัครพงษ์กล่าวว่ามีครบ 7 ขา ตั้งแต่คอร์ปอเรทไฟแนนซ์ ที่ปรึกษาการลงทุนตรง นายหน้าค้าหลักทรัพย์ธุรกิจตราสารหนี้ ธุรกิจบริหารกองทุน ธุรกิจตราสารอนุพันธ์และธุรกิจปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ได้กลายเป็นธุรกิจครบวงจรที่ขยายฐานลูกค้าของอัครพงษ์ได้อย่างเห็นผล

"เพรีกรีนกรีปนี้เป็นกลุ่มที่กำลังโตและเขาให้ความสำคัญกับเมืองไทยมากเพราะไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งที่มีศักยภายเติบโตสูง ดังนั้นจึงอยากโฟกัสที่ประเทศไทย หากมีโปรดักส์ใดที่เขาคิดว่าสามารถเปิดตลาดไทยได้ เขาจะรีบมาทำทันที" อัครพงษ์กล่าวอย่างมั่นใจในขุมพลังความรู้ความเชี่ยวชาญที่สนับสนุนอยู่

นอกจากที่กลุ่มเพรีกรีนรีบรุกเข้ามาในธุรกิจเงินทุนแล้ว อัครพงษ์ยังยอมรับว่างานในส่วนของบริษัทเพรีกรีนฟิกอินคัม (PFIL) ต้องรุกตลาดธุรกิจตราสารหนี้ที่กำลังเติบโตเพราะคาดว่าดอกเบี้ยจะลดในปี 2539 ทำให้ความต้องการเงินทุนของธุรกิจเอกชนมากและคาดว่าอัตราเติบโตจะเป็นเลขสองตัวในอีก 2-3 ปีหรือโตมากกว่า 20% ต่อปี

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เกิดการแถลงข่าวเปิดตัว "อาเชียน เครดิต รีเสิร์ช 1995" สองเล่มหนาหนักที่มีเนื้อหาวิจัยครอบคลุมบริษัทในอินโดนีเซียเล่มหนึ่ง และอีกเล่มเจาะบริษัทในไทย ฮ่องกงและมาเลเซีย จะแสดงถึงความพยายามของผู้บริหารตลาดตราสารหนี้อย่าง AAMIR RAHIM ที่เน้นภารกิจสร้างตลาดบอนด์ให้เกิดในไทย ขณะเดียวกันทีมงานนักวิเคราะห์ทำเครดิตรีเสริชภายใต้การนำของ JARDEEP KRISHNA ก็เสริมด้วยงานวิจัยที่น่าสนใจ

งานนี้อัครพงษ์ยืนฟังอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ มิได้ขึ้นเวทีเหมือนศรีพร เพราะยังไม่ถึงเวลาของอัครพงษ์ที่จะเปิดตัวต่อสาธารณชน รอจนกว่าเตรียมพร้อมเต็มร้อยเมื่อนั้นอัครพงษ์จะลั่นกลองรบแต่จะคว้าชัยชนะได้ขยายฐานธุรกิจหรือไม่ เพรีกรีนนิธิมีคำตอบ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us