Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 มีนาคม 2549
"รักอรุณ"ทุ่ม200ล.ผุดโกลด์มาร์เกต ชูคอมมูนิตี้มอลล์หวังคืนทุนใน5ปี             
 


   
search resources

Shopping Centers and Department store




"รักอรุณ" ทุ่ม 200 ล้านบาทรับสัมปทานพื้นที่ 2 ไร่จากกทม. พัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ "โกลด์มาร์เกต" ย่านประชานิเวศน์ ชูจุดเด่นศูนย์อาหารและศูนย์อัญมณีติดแอร์แห่งแรกของเมืองไทย พร้อมผนึกผู้เช่าด้วยกลยุทธ์แปลงสิทธิการเช่าเป็นทุน อัด 20 ล้านบาทสร้างแบรนด์และการตลาดรายใหญ่ อาทิ วัตสัน,Boots,ร้านนายอินทร์ แห่จับจองพื้นที่แล้วกว่า 80%

นายอัครพันธุ์ รัตตะรังสี กรรมการบริหาร บริษัท รักอรุณ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าโกลด์ มาร์เก็ต เปิดเผยว่า บริษัทฯลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการโกลด์มาร์เกตเป็นลักษณะคอมมูนิตี้มอลล์ โดยรับสัมปทานพื้นที่จากทางสำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร ระยะเวลา 30 ปี บนพื้นที่ 2 ไร่ ข้างตลาดประชานิเวศน์ 1 หรือถนนเทศบาลสงเคราะห์

โครงการนี้ได้วางตำแหน่งทางการตลาดที่จะเป็นผู้นำด้านอาหารและบริการที่มีระดับ ในราคาที่มี Value Added และต้องการให้ผู้เช่าได้มีส่วนในการเป็นเจ้าของจากมาตรการทางการเงินในหลายๆรูปแบบที่จะเข้ามาให้การสนับสนุน เช่น การสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้เช่า ,ระบบ Buy Back ซึ่งทำเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ,ระบบการลดค่าเช่าโดยอัตโนมัติ 2 รอบใน 1 ปี ,ระบบการแปลงสิทธิการเช่าเป็นทุน,ระบบเช่าช่วง โดยบริษัทฯจะเป็นผู้จัดหาผู้ประกอบการให้ ฯลฯ

ลักษณะของโครงการจะแบ่งเป็น 6 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 เป็นส่วนร้านอาหารและบริการ ชั้นที่ 2 ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม,ตลาดสด,ของด ี4 ภาค และอาหารที่เกี่ยวกับสุขภาพ ชั้นที่3 สินค้าแฟชั่น,สินค้าไอที,มือถือและผลิตภัณฑ์ความงาม ชั้นที่ 4 ศูนย์ประมูลอัญมณีติดแอร์แห่งเดียวในไทย รวมทั้งเป็นศูนย์ในการประมูลของกทม.ด้วย จากเดิมที่ใช้พื้นที่การประมูลที่ศาลาว่าการกทม.ดินแดง ชั้นที่ 5 สำนักงานตลาด และบริษัท GHP จำกัด และชั้นที่ 6 ร้านอาหารสไตล์บาหลีและพื้นที่สำนักงานของกทม.บางส่วน

เงื่อนไขการเช่าพื้นที่ของลูกค้ามีทั้งเช่าราคาประมาณ 350-1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ระยะเวลาเช่าอย่างต่ำ 3 ปี ส่วนระบบเซ้งก็มี โดยเข้าร่วมกับธนาคารกรุงไทย ด้วยเงินลงทุนค่าสิทธ์เซ้งผ่อนดาวน์ 35% กับบริษัทฯที่เหลือใช้บริการสินเชื่อรายย่อยกับธนาคารกรุงไทย ทั้งนี้พื้นที่ในการเช่าแล้วแต่ชั้นเช่น ชั้นที่ 1 เป็นขนาดใหญ่ประมาณ 40-200 ตร.ม.

ปัจจุบันชั้น 1 - 2 มีผู้เช่าพื้นที่แล้วกว่า 90% ส่วนชั้นที่ 3 มี 80% ส่วนชั้นที่ 4 ยังไม่เปิดจองพื้นที่ ซึ่งแบรนด์ดังๆที่มาเช่าพื้นที่เช่น ร้านบู๊ทส์ ร้านวัตสัน ร้านกาแฟคอฟฟี่เมกเกอร์ ร้านหนังสือนายอินทร์ เป็นต้น

ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายจะเน้นบริการรัฐวิสาหกิจโดยรอบโครงการ ผู้สนใจด้านอัญมณี กลุ่มผู้พักอาศัยในระดับ C+ ขึ้นไป นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บริษัทขนาดใหญ่และบริษัทรอบโครงการ ผู้สนใจสินค้าไอที-แฟชั่น ฯลฯ

นางสาวพัชรีวรรณ สุวรรณะบุณย์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดในระยะแรก บริษัทฯตั้งงบประมาณการตลาดไว้ 20 ล้านบาทในช่วงปีแรกเพื่อการสร้างแบรนด์ของศูนย์การค้าโกลด์ มาร์เก็ต ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เช่า รวมไปถึงผู้บริโภคที่จะเข้ามาใช้บริการ โดยจะจัดให้มีกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี รวมถึงการทำ Gift Voucher ,เมมเบอร์ การ์ด,โปรโมชั่น ฯลฯ ซึ่งการเปิดตัวเมือวันที่ 19 มาคมที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรม "ลุ้นรับทอง" ฉลองการเปิดศูนย์ เพียงชอปสินค้าครบ 300 บาท มีสิทธิ์ลุ้นสร้อยคอทองคำมูลค่าหนึ่งสลึง

"โครงการจะมีการจัดเทศกาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ศูนย์การค้า เช่น ผลไม้4ภาค ของดี 76 จังหวัด แฟรนไชส์ หนังสือ ความงาม สมุนไพร และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ หรือจัดกิจกรรมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย"

ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 35 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากค่าเช่าพื้นที่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us