เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วหากพูดว่าผู้ที่กุมบังเหียนการบริหารที่แท้จริงของธนาคารแหลมทองคือสุระ(จันทร์)
จันทร์ศรีชวาลา คงเรียกเสียงหัวเราะหึ ๆ หะ ๆ จากคนในแวดวงการเงินได้บ้างหรือยิ่งทำนายทักว่าสุระ
จันทร์ศรีชวาลา คือผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดา 3 "สุ"
ที่ประกอบด้วยอีก 2 "ส" มี สุธี นพคุณแห่งธุรกิจในเครือกลุ่มตึกดำ
(เครือโรงแรมรามาทาวเวอร์ บริษัทพัฒนาเงินทุน บริษัทประกันชีวิตอินเตอร์ไลฟ์ฯลฯ)
และสุพจน์เดชสกุลธรแห่งบริษัทเยาวราชไฟแนนซ์ฯ รวมทั้ง ตามใจ ขำภโต อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์กรุงไทยที่มีอุปการะคุณกับสุระมาตลอด…
นั่นต้องหัวเราะกันครืนใหญ่แน่
และหากพูดถึงในวงการการเมืองที่มีคอลัมนิสต์บางท่านยกย่อง พล.อ. เอกสมบุญ
ระหงส์เปรียบเทียบเป็นเล่าปี่ ที่มีบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตนค้อมกาย ยกมือไหว้ทั้งสิบทิศแล้ว
สุระ จันทร์ศรีชวาลาก็เป็นหนึ่งซึ่งสามารถใช้สมญานามนั้นได้อย่างไม่เคอะเขินสำหรับในแวดวงธุรกิจ
ลักษณาการของบุคลิกเล่าปี่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะปี 2525-2526 ในช่วงวิกฤติการณ์สถาบันการเงินครั้งที่
2 สุระ จันทร์ศรีชวาลาพยายามดิ้นรนอย่างหนักที่จะประคับประคองสถาบันการเงินในเครือของตนไม่ว่าจะเป็นบริษัทเงินทุนมิดแลนด์
และบริษัทเงินทุนเชียงใหม่ทรัสต์ นอกเหนือจากขอความช่วยเหลือจากนักธุรกิจมังกรตัวจริงที่เร้นกายไม่สู้ปรากฏตัวในงานสังคมทั่วไปแล้ว
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยก็อยู่ในข่ายด้วย
ในช่วงดังกล่าวหน่วยงานของแบงก์ชาติที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถาบันการเงินก็คือ
ฝ่ายกำกับ และตรวจสอบสถาบันการเงินซึ่งมีเริงชัย มะระกานนท์เป็นผู้อำนวยการฝ่าย
แต่สุระ จันทร์ศรีชวาลามีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง เนื่องจากเริงชัยก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคกลัว
"แขก" อีกทั้งโดยอุปนิเสียและกฏเหล็กของแบงก์ชาติก็ไม่เปิดโอกาสให้เลือกปฏิบัติกับสถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่งจึ่งเข้าไม่ติด
สุระ จันทร์ศรีชวาลายังไม่ละความเพียร เฝ้าเทียวไล้เทียวขื่อไปที่บ้านเริงชัย
มะระกานนท์แทบทุกเย็นค่ำแต่ก็ไม่เคยได้พบเพราะผู้มารับหน้าแทนก็คือนัฎฐา
มะระกานนท์ศรีภรรยาของเริงชัย และเป็นพนักงานระดับสูงอยู่ในฝ่ายต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยเจ้าตัวเคยเล่าให้ฟังว่า "ใหม่ ๆ ก็ไม่ค่อยชอบเขา เพราะไว้หนวดไว้เคราโพกหัวดูน่ากลัว
พอเจอบ่อยเข้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนสุภาพเรียบร้อยดี"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเป็นคน "สุภาพเรียบร้อยดี" ของสุระจะไม่ไปถึงหูเริงชัย
มะระกานนท์
ยุทธวิธีเช่นนี้ในแวดวงธุรกิจมีคนใช้กันมาก อย่างเช่นเจริญ ศิริวัฒนภักดีตอนที่ยังใช้นามสกุลสมบูรณานนท์และสมหมาย
ฮุนตระกูลเสนาบดีคลังผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องโรงเหล้าค่ายมหาราษฎรกับค่ายมหา
คุณเจริญรู้ดีว่าหากขอเข้าพบสมหมาย ฮุนตระกูลไม่ว่าที่บ้านหรือที่ทำงาน ในช่วงดังกล่าวหมดสิทธิ์แน่
ทางออกของเจริญ ศิริวัฒนภักดีก็คือแทบทุกเช้าจะไปถึงบ้านของสมหมาย ฮุนตระกูลเปิดประตูบ้านเข้าไป
เอากรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้จัดแจงไปและเล็มพุ่มไม้รอบสนามหญ้าที่ค่อนข้างกว้างภายในบ้านของสมหมาย
แน่นอน…ภาพเหล่านี้ย่อมอยู่ในสายตาของภรรยาของสมหมาย และบางครั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็เห็นเองยามที่นั่งรถยนต์ไปทำงาน
ยุทธวิธีเหล่านี้เป็นที่นิยมสำหรับนักธุรกิจที่ใช้กับข้าราชการระดับสูง
ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักและเป็นผู้ที่ "ซื้อ"
ไม่ได้ ก็ต้องทำตัวให้น่ารักเข้าไว้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง…ดีกว่าอยู่เฉย
ๆ
มาเข้าเรื่องความเป็นคนดวงแข็งของสุระ จันทร์ศรีชวาลากันอีกครั้งหนึ่ง
เพราะเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากคนดวงแข็งในความหมายที่เข้าใจกันทั่วไปมักจะเป็นผู้ที่ใครคิดร้ายด้วยจะมีอันเป็นไปในทางไม่ดี
แต่สำหรับสุระแล้วกระเจิงเปิงเปิดกันหมดไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตรอย่างนี้เรียกว่าเป็นคนดวงแข็งไม่ได้เสียแล้ว
น่าจะเรียกว่าดวงอันตรายจะถูกต้องกว่า
เอาค่ายศัตรูก่อนอย่างจิม สเลเตอร์นักขุดทองชาวอังกฤษเมื่อรู้จักกับสุระได้ไม่นานก็ต้องถูกเทคโอเวอร์บริษัทเงินทุนโฮ้วป่าจนต้องเผ่นกลับไปอังกฤษ
สมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์อาของภิวัฒน์คนที่สุระพูดเสมอมีบุญคุณกับเขามาก ก็ต้องกระเด้งออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแหลมทอง
พร้อม ๆ กับคนในตระกูลนันทาภิวัฒน์ เมื่อสุระ จันทร์ศรีชวาลาเข้าเทกโอเวอร์แบงก์แหลมทองหลังจากเปิดศึกแย่งชิงการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กันยืดเยื้อหลายปี
เอาทางด้านมิตรก็เช่นกัน คนอย่างตามใจ ขำภโตคนที่สอบได้ที่หนึ่งของประเทศไทย
และจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยก็ช่วยเหลือเป็นฐานการเงินให้กับสุระ
อย่างไม่สู้จะมีเหตุผลเท่าไหร่ และผลจากการช่วยสุระ ทำให้ตามใจ ขำภโตกล้าปล่อยกู้อย่างผิดกฎหมายให้กับกิจการในเครือของสุระจนถูกศาลพิพากษาให้จำคุกกว่า
50 ปี หากไม่มีปาฎิหาริย์ใด ๆ ก็คงไม่ได้สูดกลิ่นไอของอิสรภาพขณะที่ยังหายใจอยู่
สุธี นพคุณที่สุระให้ความนับถือและเป็นเพื่อนในเชิงธุรกิจก็ต้องเป็นมังกรผู้ต้องซ่อนกายหลบหนีอาญาแผ่นดิน
พร้อมกับการพังพินาศของธุรกิจในเครือตึกดำ หรือสุพจน์ เดชสกุลธรเพื่อนรักอีกคนหนึ่งที่ต้องจบชีวิตด้วยโรคมะเร็งในคุกอย่างน่าอนาจใจ
ทุกวันนี้ สุระจันทร์ศรีชวาลาคงนอนหลับฝันดีเมื่อฝันถึงกิจการในเครือ หรือศัตรูของเขาแต่ไม่รู้วาจะหลับตาลงหรือเปล่าเมื่อฝันถึงมิตรสหายที่ร่วมรบกันมา ?