MINT ประกาศจ่ายปันผลงวดสิ้นปี 48 หุ้นละ 0.1125 บาท และจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพในอัตราร้อยละ 3.75 ของราคาเสนอขาย โดยกำหนดจ่าย 15 พ.ค.นี้ พร้อมให้ลดทุนจดทะเบียนจาก 3,374,883,376 บาท เหลือ 3,373,801,295 บาท ด้วยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่าย 1,082,081 หุ้น และเพิ่มทุนใหม่ 2,794,300 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,794,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนใหม่จาก 3,376,595,595 หุ้น
นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ กรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ครั้งที่ 5/2549 ประชุมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2549 ว่าที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งนายไมเคิล ซากิลด์ เป็นกรรมการแทนนายเควิน เจมส์ บูเวส์ ที่ลาออก โดยให้ดำรงตำแหน่งตามวาระที่ยังคงเหลืออยู่ของนายเควิน เจมส์ บูเวส์ ซึ่งมีกำหนดจะครบวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2549 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ยังมีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2548 ในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท สำหรับผู้ถือหุ้นสามัญเดิมและผู้มีสิทธิ์แปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์) จำนวนไม่เกิน 2,880,051,838 หุ้น รวมเป็นเงินไม่เกิน
360,006,479.78 บาท โดยบริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่าย จำนวนร้อยละ 10 เป็นเงิน 0.0125 บาทต่อหุ้น ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลในรูปของเงินสด 0.1125 บาท ต่อหุ้น และจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพในอัตราร้อยละ 3.75 ของราคาเสนอขายเป็นเงิน 9,206,287.50 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 369,212,767.28 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นตามทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 เมษายน 2549 ซึ่งเป็นวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นและกำหนดจ่ายภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2549
นอกจากนี้ MINT ยังแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 4 เพื่อยกเลิกหุ้นบุริมสิทธิกลุ่ม ข โดยยกเลิกข้อความเดิมและใช้ข้อความใหม่ดังต่อไปนี้ "ข้อ 4.หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิชนิดระบุชื่อผู้ถือมีมูลค่าหุ้นละ 1 บาท และต้องใช้เงินจนเต็มมูลค่าหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นบุริมสิทธิเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิออกเสียงเท่ากับหุ้นสามัญ
บริษัทอาจออกหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ (บริษัทอาจแปลงสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพหรือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญก็ได้) ตราสารประเภททุนวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นหรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นกู้และหลักทรัพย์อื่นได้ ทั้งนี้ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำหรับหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญมีบุริมสิทธิ ดังนี้คือบุริมสิทธิในการแบ่งผลกำไรในรูปของเงินปันผลเป็นดังนี้
ก) ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับเงินปันผลอันเป็นส่วนแบ่งผลกำไรของบริษัทก่อนผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราคงที่ตลอดอายุของหุ้นบุริมสิทธิร้อยละ 3.75 ของราคาเสนอขายต่อหุ้นที่กำหนดโดยบริษัทในการเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนในแต่ละคราว
(ข) ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลเฉพาะในปีที่บริษัทได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลเท่านั้นและให้มีสิทธิได้รับเงินปันผลสะสมสำหรับปีที่บริษัทไม่ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลและ/หรือในส่วนของเงินปันผลที่ไม่สามารถจ่ายได้เต็มตามอัตราที่กำหนดใน (ก)
(ค) เงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธินั้นจะจ่ายในอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ (ก) เท่านั้นและจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีกสำหรับผู้ถือหุ้นบุริมสิทธินั้นๆ
ขณะที่บุริมสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญมีระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ออกหุ้นบุริมสิทธิโดยหุ้นบุริมสิทธิจะเริ่มแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ภายหลังจากวันครบกำหนดระยะเวลา 4 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นบุริมสิทธิ เมื่อครบกำหนดเวลาแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญดังกล่าวแล้ว ให้บุริมสิทธิดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลงทันทีโดยให้มีสิทธิอย่างเดียวกับหุ้นสามัญและให้แปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ
การแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญให้กระทำได้โดยผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิยื่นคำขอแปลงหุ้นต่อบริษัทหรือนายทะเบียนหุ้นของบริษัท พร้อมกับการส่งมอบใบหุ้นคืนให้แก่บริษัทตามเวลาที่บริษัทกำหนดโดยหุ้นบุริมสิทธิหนึ่ง (1) หุ้น มีสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้หนึ่ง (1) หุ้น การแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
นางปรารถนาแจ้งต่อว่าบอร์ดมีมติให้ลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้ออกจำหน่าย 1,082,081 หุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 3,374,883,376 บาท คงเหลือทุนจดทะเบียน 3,373,801,295 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 3,310,281,295 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 63,520,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท (ซึ่งทุนจดทะเบียนที่เหลือดังกล่าวได้รวมทุนจดทะเบียนที่สำรองไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น 449,668,537 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 449,668,537 หุ้น และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนโดยให้ยกเลิกข้อความเดิม และใช้ข้อความใหม่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 2,794,300 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 2,794,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมของบริษัท 3,373,801,295 บาท เป็น 3,376,595,595 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 3,313,075,595 หุ้น หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ 63.52 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยให้ยกเลิกข้อความเดิมและใช้ข้อความใหม่ดังกล่าว
พร้อมกับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 2,794,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท อันเนื่องมาจากการเพิ่มทุน โดยหุ้นสามัญ 161,600 หุ้น ให้จัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิของวอร์แรนต์ที่จัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานในโครงการ 1 (ESOP 1) เนื่องจากการออกวอร์แรนต์ธิให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (MINT-W3) และหุ้นสามัญ 2,632,700 หุ้น ให้จัดสรรเพื่อเพื่อรองรับการปรับสิทธิของวอร์แรนต์ที่จัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานในโครงการ 2 (ESOP 2) เนื่องจากการออกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (MINT-W3)
โดยกรรมการของบริษัทและบริษัทย่อยตามโครงการเสนอขายวอร์แรนต์ให้แก่กรรมการ และ/หรือพนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 2 เพิ่มเติมจากที่เคยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ซึ่งได้จัดสรรให้กรรมการ 8 ราย แบ่งเป็นวอร์แรนต์ที่ได้รับการอนุมัติการจัดสรร 114.30 ล้านหน่วย และการขออนุมัติใหม่ 12.20 ล้านหน่วย รวมทั้งสิ้น 26.50 ล้านหน่วย คิดเป็น 22.78%
กำหนดวันประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 13/2549 ในวันที่ 18 มษายน พ.ศ. 2549 เวลา 9.00 น. โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เพื่อรายงานและขอมติเห็นชอบผลการประชุมบอร์ดครั้งนี้ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 13 /2549 ในวันที่ 31 มีนาคม 2549 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จและกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อการจ่ายเงินปัน กำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 25 เมษายน 2549 เวลา 12.00 น. โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2549
|