|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
IHLกู้เงินอีก 200-300 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ คาดเดินเครื่องโรงงานใหม่ปลายปีนี้ ขยายกำลังผลิตรองรับความต้องการลูกค้าและเพิ่มการส่งออกหวังขยายฐานลูกค้า ยันรักษามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30-35% จากปี 48 ที่มีรายได้รวม 1,003 ล้านบาท
นายอวยชัย มติธนวิรุฬห์ กรรมการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด(มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ระดับ 30-35% ขณะที่ปี 48 บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้ถึง 53% จากปี47 ที่มีรายได้รวม 654 ล้านบาท ขณะที่ปี 48 มีรายได้รวม 1,003 ล้านบาท และความสามารถในการทำกำไรอยู่ที่ 24% ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ดีของบริษัทปีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อไตรมาส 4 ปี48 รายได้ของบริษัทเติบโตดี แต่มาร์จิ้นต่ำ เนื่องจากบริษัทได้ตัดขายหนังเกรดซี ซึ่งเป็นหนังไม่ได้มาตรฐาน เพราะOEM ของไทยสเป็กจะสูง หนังเกรดซี IHL จึงส่งไปขายที่จีนซึ่งเป็นการขายในรูปหนังแผ่น เนื่องจากหนังเกรดนี้มีสะสมไว้ในสต็อกมานานหลายปี IHL จึงตัดขายแบบยอมต่ำกว่าทุนล้างสต็อกดีกว่าเก็บไว้สูญเสียทีหลัง ส่งผลให้มีขาดทุนกว่า 5 ล้านบาท เพราะบริษัทเฉลี่ยต้นทุนเท่ากันทั้งหนังเกรดเอ บี และซี
สำหรับปีนี้ IHL คาดว่ากำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 120 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์จากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เข้ามา ซึ่งสัดส่วนลูกค้าปัจจุบันเป็นลูกค้าในประเทศ 85% และลูกค้าต่างประเทศ 10% และในอนาคตสัดส่วนจะเปลี่ยนเป็นส่งออก 60% และขายในประเทศ 20%
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงพยายามรักษากรอสมาร์จิ้นให้เหนือกว่า 20% โดยคาดว่าปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 23-24 % ซึ่งใกล้เคียงกับปี 48 โดยอยู่ที่ระดับ 24% แม้ว่าการสร้างโรงงานแห่งใหม่จะส่งผลต่อตัวกรอสมาร์จิ้นระดับหนึ่ง แต่บริษัทจะเน้นควบคุมต้นทุนการผลิตและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดผลดีต่อการดำเนินงานโดยรวม
ประกอบกับที่ปีนี้ IHL จะเดินเครื่องผลิตเพิ่มในโรงงานแห่งที่ 6 หลังจากปีที่แล้ว บริษัทซื้อที่ดิน 17 ไร่ มูลค่าที่ดิน 89 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งที่ 6 ซึ่งจะผลิตและฟอกย้อม คาดแล้วเสร็จกลางปีนี้และทดลองเดินเครื่องผลิตไตรมาส 3 ก่อนที่จะเดินเครื่องผลิตจริงในไตรมาสสุดท้ายนี้ โดยจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มจากเดิม 12 ล้านตารางฟุตต่อปี เป็น 24 ล้านตารางฟุตต่อปี และระยะแรกจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ล้านตารางฟุต โดยบริษัทจะผลิตได้ 24 ล้านตารางฟุตต่อปีได้ในปี 50
โดยการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น เพื่อเป็นเป้าหมายที่บริษัทจะขยายตลาดในต่างประเทศให้มากขึ้น ทั้ง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เวียดนามและแอฟริกาใต้ เป็นต้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีก ส่งผลให้เป้าการขายในประเทศ 80% และส่งออก 20% และปีหน้าสัดส่วนของการจำหน่ายจะเปลี่ยนไปตามภาวะตลาดส่งออกที่บริษัทจะเน้นมากขึ้น อันจะส่งผลให้ยอดขายและรายได้เติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมาย
นายอวยชัยกล่าวต่อปัจจุบันรถยนต์หันมาใช้เบาะหนังมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อเพราะโอกาสในการที่จะเติบโตก็มีมากประกอบกับปัจจุบันบริษัทก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับโตโยต้าประกอบกับที่เรามีทีมการตลาดที่แข็งแกร่ง จะหนุนให้แข็งแกร่งด้วย ขณะที่เงินเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ไม่ได้ใช้เงินจากการขายหุ้น IPO เพราะเงินที่ได้จากการระดมทุนเมื่อปลายปี 48 จะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ระยะสั้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสะสมจากการดำเนินงานเป็นปีแรก โดยเงินที่สร้างโรงงานแห่งใหม่นั้น บริษัทหันไปใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อมาใช้สร้างโรงงานแห่งใหม่นี้ 200-300 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR-0.25% และจะเซ็นสัญญาเดือนนี้ ซึ่งการลงทุนนี้เป็นระยะยาวและกู้ทีละงวดได้ ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน D/E RATIO อยู่ที่ 0.9 เท่าเมื่อสิ้นปี 48
สำหรับโมเดลใหม่ ๆ นั้น อาจมีเกิดขึ้นได้ในปลายปีนี้ เพราะIHL จะหันมาเน้นการส่งออกมากขึ้น เพราะปัจจุบันแม้จะมีงานในต่างประเทศหลายโมเดล แต่บริษัทยังไม่กล้ารับ เนื่องจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอ เพราะบริษัทต้องบริหารงานให้เป็นก่อนที่จะรับออเดอร์เข้ามา ซึ่งโดยปกติธุรกิจนี้จะต้องมีงานในมือ 80%ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพราะต้องมีกำลังผลิตเหลือสำรองไว้รองรับในกรณีที่ลูกค้าปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาเพิ่ม และหลังโรงงานแห่งใหม่ผลิตได้บริษัทจะสามารถรองรับการผลิตได้อีก 4 เท่าตัว หรือ 48 ล้านตารางฟุตต่อปี
นอกจากนี้ IHL ยังจะลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มอีก 120 ตัว เพื่อเพิ่มความสามารถในการ sewing คืองานเย็บและร้อยหนัง ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้นเป็นลำดับซึ่งโตโยต้าใช้บริการของ IHL เกือบทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทจากส่วนนี้มี 65% ส่วนที่เหลือจะมาจากงานชิ้นส่วนหนังที่ตัดแล้วหรือ Cut Part
|
|
|
|
|