Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 มีนาคม 2549
เสริมสุขควัก690ล.เพิ่มแกร่งรับศึกหนักชู3ยุทธศาสตร์รุก             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เสริมสุข จำกัด (เป๊ปซี่)

   
search resources

เสริมสุข, บมจ.
สมชาย บุลสุข
Marketing
Soft Drink




“เสริมสุข” ชู 3 ยุทธศาสตร์ฝ่ายุคการเมืองอึมครึม-ต้นทุนการผลิตเพิ่ม ดันธุรกิจ 3 ขา น้ำอัดลม - แบรนด์เครื่องดื่มใต้ร่มเงาเสริมสุข – ผู้จัดจำหน่ายโตเข้าเป้า 6% เดินเกมลดต้นทุนพุ่ง ควัก 690 ล้านบาท ลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิต ขยายแวร์เฮ้าส์ เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยรถกระจายสินค้า งัดก๊าซมีเทนใช้ทดแทน ปลื้มปี 2548 กวาดรายได้ 16,034 ล้านบาท โต 8% เกินเป้า

นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่มีปัจจัยหลายอย่างเข้ามากระทบธุรกิจไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์การเมืองที่ยากต่อการคาดเดาว่า จะเป็นไปในทิศทางใด พร้อมกับการเผชิญกับภาวะต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำตาลปรับขึ้น 3 บาทต่อกิโลกรัม ค่าน้ำมัน ค่าแรงงานขั้นต่ำ ค่าไฟ ค่าวัสดุจากพลาสติก แนวทางการดำเนินธุรกิจของเสริมสุขเพื่อการเติบโตปีนี้ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่มอัดลม,กลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลมภายใต้แบรนด์ของเสริมสุขเอง และการเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม บริษัทจะชู 3 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์แรก คงความเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลม( Best Bottler) โดยเน้นผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้นภายใต้การร่วมมือกับเป๊ปซี่ เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์ให้ครบวงจร

อีกทั้งยังสร้างสรรค์แนวทางการขายใหม่ Wholesaler Pre-Sell ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยการส่งพนักงานขายล่วงหน้าไปก่อนหน่วยรถ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 1,400 คัน เพื่อแนะนำสินค้าและความแม่นยำในการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเน้นสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย เพื่อการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ตามความต้องการของลูกค้า รวมทั้งวางแผนการจัดการการขนส่ง ไปยังตัวแทนจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มน้ำอัดลม ประกอบด้วย เป็ปซี่ และมิรินด้า ก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลม โดยคอปอร์เรต แชร์ เกิน 50% จากปัจจุบันเป๊ปซี่ มีคอปอร์เรต แชร์ 48.4% ส่วนโค้กเป็นผู้นำครองมี 48.9%
ยุทธศาสตร์ที่สอง เสริมความแกร่งให้กับแบรนด์ของเสริมสุข (Serm Suk’s Brand) โดยใช้ศักยภาพและความชำนาญในธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพภายใต้แบรนด์ของเสริมสุขเอง นำร่องด้วยน้ำดื่มคริสตัล โดยวางเป้าหมายให้คริสตัลเป็นน้ำดื่มที่ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ในชั้นนำในตลาดน้ำดื่มไทย จากในปีที่ผ่านมาคริสตัลมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 30% ส่งผลให้ปัจจุบันมีส่วนแบ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 คือ 15% จากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาคริสตัลมีส่วนแบ่งเป็นอันดับสามไล่เลี่ยกับแบรนด์อื่นๆ อาทิ ไทยน้ำทิพย์ เนสท์เล่ ช้าง ราว 10% ส่วนผู้นำตลาดเป็นน้ำดื่มสิงห์มีส่วนแบ่ง 20%

ยุทธศาสตร์ที่สาม ก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดจำหน่าย (Super Distributor) ด้วยการใช้เครือข่าย ที่แข็งแกร่งกว่า 2 แสนร้านค้า พร้อมกับระบบลอจิสติกส์ ซึ่งมีหน่วยรถ 1,400 คัน แวร์เฮ้าส์ 46 สาขา สำนักงาน 50 แห่งทั่วประเทศ และทีมขายจำนวนมาก จึงมีความพร้อมที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ที่มีศักยภาพอื่นๆ จากปัจจุบัน เสริมสุขเป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับ ชาเขียวโออิชิ คาราบาวแดง ซึ่งสัดส่วนรายได้ที่มาจากเครื่องดื่มไม่อัดลมในส่วนนี้เพียง 15% ขณะที่รายได้หลักยังจากเครื่องดื่มน้ำอัดลมถึง 85% และในอนาคตได้วางเป้าหมายสัดส่วนรายได้เครื่องดื่มไม่อัดลมจะเพิ่มเป็น 30% ส่วนน้ำอัดลมเหลือเป็น 70%

ควัก 690ล.ลงทุนเพื่ออนาคต

นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ทั้งสามยุทธศาสตร์ผลักดันธุรกิจให้มีอัตราการเติบโต ดังนั้นปีนี้เสริมสุขทุ่มงบลงทุน 690 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต 120 ล้านบาท ลงทุน 200 ล้านบาทในโครงการขยายและพัฒนาแวร์เฮ้าส์เพิ่มอีก 2 แห่ง เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งไม่ให้หน่วยรถต้องวิ่งรถกระจายสินค้าไกลเกินไป นอกจากนี้ยังได้ทุ่มงบอีก 220 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยรถกระจายสินค้า โดยเพิ่มรถจาก 4 กระบะ เป็น 6 กระบะ เพื่อบรรทุกสินค้าได้มากขึ้นจาก 240 ลัง เป็น 301 ลัง และอีก 150 ล้านบาทลงทุนโครงการพัฒนาปรับปรุงระบบสารสนเทศ และโครงการล่าสุดหันมาใช้พลังงานทดแทน นำก๊าซมีเทนที่ได้จากบ่อบำบัดน้ำเสียทดแทนน้ำมันเตา ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวทั้งหมด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและการจัดการเพื่อรองรับกับผลิตภัณฑ์ใหม่ และลดต้นทุนต่างๆที่ปรับเพิ่มขึ้น

สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 6% จากในปี 2548 มีรายได้ 16,034 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547 มีรายได้ 14,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.84% โดยเป็นการเติบโตเกินเป้าที่บริษัทตั้งเอาไว้ว่าจะโต 6% ซึ่งปีที่ผ่านมากลุ่มน้ำอัดลมยอดขายเติบโต 7% โดยส่วนแบ่งเป๊ปซี่เพิ่มขึ้นจาก 61.5% เป็น 63.5% น้ำดื่มคริสตัลยอดขายโต 40% ส่วนรายได้จากการจัดจำหน่ายคาราบาวแดงโต 10% ขณะที่กำไรสุทธิปีที่ผ่านมา511 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547 กำไรสุทธิ 534 ล้านบาท ลดลง 4.31% ทั้งนี้เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us