ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบริษัทจดทะเบียน 216 บริษัท จากทั้งหมด 431 บริษัท โชว์ผลงานปี 2548 ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมกัน 1.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ถึง 8% ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 4% โดยมูลค่าเงินปันผลกลุ่มทรัพยากร สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง รวม 4.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปตท. จ่ายปันผลรวมเกือบ 2.6 หมื่นล้าน

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ วันที่ 1 มีนาคม 2549 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 216 บริษัท หรือ 50% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 431 บริษัท (ไม่รวมบริษัทจดทะเบียนในหมวด REHABCO) ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2548 แล้วมีมูลค่าเงินปันผลรวมสูงถึง 161,680 ล้านบาท เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นถึง 7.95% เมื่อเทียบกับปี 2547 และเมื่อคิดเงินปันผลเทียบกับราคาหลักทรัพย์แล้วจะเห็นว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 4%

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มบริการ

สำหรับกลุ่มทรัพยากร มีมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายรวม 45,542 ล้านบาท นับเป็นหมวดที่มีมูลค่าการจ่ายปันผลสูงสุด และมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลเป็นมูลค่ารวมสูงสุดถึง 25,875 ล้านบาท โดยจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 9.25 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เท่ากับ 3.67%

ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายรวมเป็นอันดับสอง 31,236 ล้านบาท โดยบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC จ่ายปันผลสูงสุดในกลุ่มนี้รวมมูลค่า 18,000 ล้านบาท โดยจ่ายในอัตราหุ้นละ 15.00 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 6.15%

ส่วนกลุ่มเทคโนโลยี มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายรวมเป็นอันดับสาม 28,164 ล้านบาท ซึ่งในหมวดนี้ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายสูงสุด 18,852 ล้านบาท จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 6.30 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 6.49%

สำหรับกลุ่มธุรกิจการเงิน มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายรวมเป็นอันดับสี่ 19,191 ล้านบาท ซึ่งในหมวดนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายสูงสุด 5,645 ล้านบาท โดยจ่ายในอัตราหุ้นละ 3.00 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 4.62% และกลุ่มบริการ มีมูลค่าเงินปันผลจ่ายรวมเป็นอันดับห้า 17,785 ล้านบาท นำโดย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI มีมูลค่าจ่ายเงินปันผลรวมสูงสุด 2,548 ล้านบาท โดยจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท มี Dividend Yield เท่ากับ 3.47%

นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 5.60% 2. กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 5.25% 3. กลุ่มเทคโนโลยี มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 5.19% 4. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 4.62% 5. กลุ่มบริการ มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 4.33%

ทั้งนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินปันผล และคาดว่าจะทยอยประกาศมาให้ทราบเป็นระยะซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลการจ่ายปันผลได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์