|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แพทโก้ฯ เดินหน้านำระบบพรีแฟบเป็นจุดขายบ้านตลาดกลาง-ล่าง หวังสร้างแบรนด์ติดตลาดในอนาคต เน้นแผนลงทุน 3 จังหวัดโซนตะวันออก รองรับการเติบโตสนามบินสุวรรณภูมิ เร่งพัฒนาบุคลากร หวังปูทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 5 ปี ระบุไตรมาส 2-3 เปิดรวด 3 โครงการ รวมมูลค่า 1,300 ล้านบาท
นายสืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แพทโก้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี2549 ว่า บริษัทมีแผนที่จะนำระบบพรีแฟบเข้าใช้ก่อสร้างบ้านระดับกลางและล่างด้วย เพื่อบริหารต้นทุนในการก่อสร้าง ซึ่งถึงแม้ว่าระบบดังกล่าวจะมีจุดอ่อนในเรื่องการเชื่อมต่อ แต่บริษัทก็จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการพยายามศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ ดังนั้นเมื่อนำมาแก้ไขก็จะไม่เกิดปัญหารอยร้าวหรือมีรอยรั่ว เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการดีไซน์ทาวน์เฮาส์ให้น่าอยู่เหมือนบ้านเดี่ยวอีกด้วย
"การที่เรานำระบบพรีแฟบมาใช้ เพราะเราต้องการพัฒนาโครงการประเภทอสังหาริมทรัพย์อยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากไม่มีการศึกษาระบบพรีแฟบไว้บ้าง ในอนาคตก็คงจะตามคนอื่นเขาไม่ทัน และขณะนี้แรงงานค่อนข้างขาดแคลน และสถาปนิกควบคุมงานก็น้อย เกรงว่างานออกมาจะไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้านำระบบพรีแฟบมาใช้ แม้ในช่วงแรกต้องใช้เงินลงทุนที่สูง แต่ในระยะยาวก็ส่งผลดีต่อบริษัท "นายสืบวงษ์ กล่าว
โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ คือ โครงการวิคตอเรีย ไพรเวทซิตี้ พัฒนาในนามบริษัท เจริญมารีน จำกัด ใช้พื้นที่ 11 ไร่เศษ รวมมูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท , โครงการ เดอะ รอยัล สามมุข พัฒนาในนาม บริษัท ไลม่าแลนด์ ลอร์ด จำกัด บริเวณถนนบางแสน-อ่างศิลา(เชิงเขาสามมุข) บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ รวมมูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และโครงการมารวย พัฒนาในนามบริษัท ชลบุรี สามมุขธานี จำกัด บริเวณถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา รวมมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
นายสืบวงษ์ กล่าวว่าตามแผนของบริษัทในระยะ 5 ปีข้างหน้า จะดำเนินนโยบายเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ต้องมีการวางรากฐานขององค์กรให้เข้มแข็ง ทั้งในเรื่องการเงิน บุคลากร หรือการก่อสร้างโครงการให้มากขึ้น รวมถึงการเร่งสร้างแบรนด์ของบริษัทให้ติดตลาดมากที่สุด ส่วนของแผนการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติในขณะนี้ บริษัทไม่มีนโยบายแต่อย่างใด แต่ถ้าหากมีการพัฒนาโครงการในรูปแบบของคอนโดมิเนียมระดับสูงขึ้นมา ก็อาจจะพิจารณาหาผู้ร่วมทุน เพราะบริษัทจากต่างประเทศมีความได้เปรียบในเรื่องของเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและขาย
|
|
|
|
|