ทรีนิตี้ วัฒนา เตรียมไปลงทุนต่างประเทศในอนาคต หวังใช้เครือข่ายโพลาลิส กรุ๊ปที่มีอยู่ทั่วโลกเข้ามาช่วยหนุน "ภควัต"เผยนโยบายการลงทุนของจะต้องเข้าไปลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 20% ขณะนี้มีเงินรองรับที่จะเข้าไปลงทุน 1,300-1,400 ล้านบาท

นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนิตี้ วัฒนาจำกัด (มหาชน)หรือ TNITY เปิดเผยว่า ภายในอนาคตกลุ่มบริษัททรีนิตี้มีแผนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อที่จะหาช่องทางการลงทุนเพิ่มขึ้นอีก และเป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนอีกด้วย ซึ่งการที่บริษัททรีนิตี้ วัฒนาได้ร่วมทำธุรกิจกับกลุ่มบริษัทโพลาลิส กรุ๊ป พันธมิตรจากไต้หวันในธุรกิจตลาดอนุพันธ์นั้น อาจจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้บริษัททรีนิตี้ วัฒนาสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้ เพราะกลุ่มบริษัทโพลาลิส กรุ๊ปนั้นมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก

ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนนั้นมีหลายช่องทาง อาทิ การออกกองทุนอนุพันธ์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดรูปแบบที่แน่นอน รวมถึงประเทศที่จะเข้าไปลงทุนนั้นยังไม่ได้กำหนดแน่นอน อย่างไรก็ตาม คงจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะทางบริษัททรีนิตี้ ต้องการที่จะให้มีความพร้อมในทุกๆ ด้านก่อน โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการทำธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้าประเภทกองทุน และถ้าเป็นไปได้บริษัทหวังจะที่เป็นไฟแนนซ์เชียลโฮลดิ้ง และการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ถือว่าเป็นการทำให้นักลงทุนสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น ไม่ใช่มีเพียงข้อจำกัดแค่การลงทุนในประเทศเท่านั้น

อนึ่งก่อนหน้านี้บริษัททรีนิตี้ วัฒนาเคยมีแผนที่จะไปลงทุนในประเทศจีน ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย โดยบริษัททรีนิตี้วัฒนาจะเข้าไปถือหุ้นในบลจ.กรุงไทยร่วมกับกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือกลุ่มซีพี โดยจะอาศัยเครือข่ายของกลุ่มซีพีในประเทศจีนเข้ามาเกื้อหนุน อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวต้องล้มเลิกไป เนื่องจากธนาคารกรุงไทยในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ปรับแผนใหม่โดยยกเลิกที่จะให้บริษัททรีนิตี้ วัฒนาและกลุ่มซีพีเข้ามาถือหุ้น เพราะธนาคารกรุงไทยยังต้องการที่เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 100% เหมือนเดิม

สำหรับแผนการลงทุนในประเทศนั้น นายภควัต กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัททรีนิตี้ได้เข้าไปลงทุนในบริษัทไทยลามิเนต แมนูแฟคเจเรอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเคทีซี อีเลคโทรนิคส์ ซึ่งทางบริษัททรีนิตี้วัฒนาได้เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 24% และที่ผ่านมาสามารถให้ผลตอบแทนแก่บริษัทเป็นที่น่าพอใจ และบริษัททรีนิตี้วัฒนา ก็ยังสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในอีกหลายบริษัท แต่มีเงื่อนไขที่จะต้องเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20% และจะพิจารณาถึงธุรกิจที่เข้าไปลงทุน รวมถึงการเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องเป็นการลงทุนแบบเป็นมิตร และมีช่องทางที่จะขายออกมาได้อีกด้วย ซึ่งในแง่ของเงินทุนถือว่าไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบันนี้มีเงินทุนประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท