Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มีนาคม 2549
SOLARเตรียมบุกตลาดเพื่อนบ้านหลังพบความต้องการไฟฟ้ามีมาก             
 


   
search resources

โซลาร์ตรอน, บมจ.
Electricity




โซลาร์ตรอน เตรียมลุยพม่าหลังได้งานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เจดีย์โกลเด้นท์ร็อค พร้อมลุยหาลูกค้าเพิ่ม หลังพบมีพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้าถึง 80% เล็งผลิตและส่งออกแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศเพื่อนบ้านทำเงิน ขณะที่โซลาร์โฮมเฟสแรกและสองจะหมดลงปีนี้ คาดโซลาร์โฮมเฟส 3 จะมีต่อเนื่องมูลค่า 500-600 ล้านบาท โดยเป็นพื้นที่ภาคเหนือและใต้ที่ความต้องการยังมีสูง และลุยอีกหลายโครงการหากได้รับการอนุมัติจากภาครัฐ ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20-30%

นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR เปิดเผยว่า บริษัทสามารถประมูลงานโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้แสงสว่าง ณ Golden Rock pagoda หรือเจดีย์ โกลเด้นท์ร็อค ประเทศพม่าจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงานกระทรวงพลังงานได้ ซึ่ง บริษัทจะเริ่มทำการติดตั้งระบบดังกล่าวในช่วงเดือนมีนาคม 2549 นี้ โดยมีมูลค่าโครงการเกือบ 15 ล้านบาท และบริษัทจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้

โดยทางกรมฯได้ตรวจคุณสมบัติของเราแล้วว่าสามารถทำงานนี้ได้จึงได้ส่ง SOLAR ไปทำสัญญาติดตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าที่ Golden Rock pagoda ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเจดีย์พระบรมธาตุชเวดากอง ซึ่งการได้งานครั้งนี้ถือเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าด้านหนึ่ง

“การที่เรามีโอกาสได้เข้าไปทำงานให้กับพม่านั้น เป็นโอกาสดีที่จะเราจะได้รู้จักและเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่เราจะเข้าไปทำตลาดในอนาคต เพราะพม่ายังมีไฟฟ้าใช้น้อยมาก เราได้เข้าทำงานตรงนี้จะเป็นช่องทางในการที่จะสำรวจลูกค้าเพิ่มขึ้น เพราะพม่ายังมีพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้าอีกมากถึง 80% ของประเทศเขา และเป็นการเปิดตัวของเราให้เขาได้รับรู้ว่าเรามีสิ่งที่เขาต้องการ ” นางสาววันดีกล่าว

ดังนั้น ตลาดของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า ลาว เวียดนามและกัมพูชา จะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของ SOALR ในอนาคคตหลังจากที่บริษัทได้สร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเข้าหาต้นน้ำมากขึ้น แม้จะใช้เงินลงทุนมาก แต่บริษัทจะลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 20% เพราะปัจจุบันยังนำเข้าจากต่างประเทศ

นางสาววันดีกล่าวอีกว่า นอกจากที่พม่าแล้ว ยังจะเข้าไปประมูลติดตั้งตามโครงการไอพีสตาร์ด้วย เนื่องจากในพื้นที่ตั้งของโครงการดังกล่าว ความต้องการใช้ไฟฟ้าย่อมมีสูงและหากพ่วงไปด้วยกันได้ จะให้ระบบการศึกษาผ่านดาวเทียม การใช้คอมพิวเตอร์ในพื้นที่สูง และการใช้ไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ขณะนี้เตรียมเรื่องที่จะเสนอต่อกระทรวงไอซีที เพื่อเสนอโครงการดังกล่าว คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจอีกโครงการหนึ่ง

การรุกงานที่หลากหลายโครงการมากขึ้น เพราะ SOLAR ต้องการสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง เพราะโครงการโซลาร์โฮมเฟสแรกจะหมดลงแล้วในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่เฟส 2 ก็จะจบลงในปีนี้เช่นกัน แต่ผู้บริหารของ SOLAR ยังมั่นใจว่าโซลาร์โฮมเฟส 3 จะเกิดขึ้นต่อเนื่องอีกแน่นอน

“เพราะภาคใต้พบว่ายังมีพื้นที่ขาดไฟฟ้าใช้อีกมากถึง 8 พันครัวเรือน ขณะที่ภาคเหนือแม้จะมีติดตั้งในพื้นที่ภูเขาสูง แต่ก็ยังมีเป็นหมื่นครัวเรือน คิดว่าน่าจะเป็นเม็ดเงิน 500-600 ล้านบาท ”นางสาววันดีกล่าว

ดังนั้น การที่SOLAR สร้างโรงงานและขยายกำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อรองรับตลาดที่จะมีใหม่เกิดขึ้น เนื่องจากเป้าหมายของลูกค้านอกจากรองรับความต้องการในประเทศแล้ว ยังจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยเบื้องต้นก็ต้องสร้าง ดีลเลอร์ เน็ตเวิร์ค ไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายงานไปยังลูกค้าที่หลากหลาย

นางสาววันดีกล่าวต่อว่า การเดินสายเพื่อเสนอโครงการต่าง ๆ รวมทั้งการได้ลูกค้าใหม่เข้ามานั้น เป็นการปูทางเพื่อสร้างรายได้ที่จะรับรู้ในปี 50 ซึ่งเป็นช่วงที่โรงงานแห่งใหม่เดินเครื่องผลิตได้พอดี จึงเป็นการหาตลาดเพื่อรองรับลูกค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“ความต้องการใช้ในประเทศมีสูงมาก แต่เราต้องทำความเข้าใจกับเขาก่อน อย่างงาน ROOF TOP ที่ติดแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคา และงานการใช้ระบบน้ำหยด โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เราต้องให้ความรู้และทำความเข้าใจ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดประโยชน์กับเขา ” นางสาววันดีกล่าว

นอกจาก SOLAR จะเดินหน้าหาลูกค้าเพิ่มแล้ว ยังต้องมีการทำการตลาดแบบ โมเดิร์น เทรด แทนการนำเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐเพียงอย่างเดียว เพราะในอนาคตจะรุกตลาดให้กว้างขึ้นแทนการอิงงานกับภาครัฐ แม้ว่าโดยแท้จริงแล้วจะต้องเกี่ยวเนื่องกับภาครัฐก็ตาม เพราะเรื่องของพลังงานยังต้องอาศัยภาครัฐเป็นแกนหลัก

สำหรับปีนี้ SOLAR ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20-30% โดยรายได้ส่วนใหญ่ ยังคงเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์โฮมเฟสแรกและเฟส 2 ขณะที่ช่วงปลายปีงานใหม่ที่นำเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐนั้น จะได้ข้อสรุปและดำเนินการได้ปลายปีนี้ เพื่อที่จะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 50 ต่อเนื่องจากโซลาร์โฮมเฟส 2 ที่จะจบลง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us