|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
"สามารถคอร์ปอเรชั่น" ส่งบริษัทย่อยสยายปีกการลงทุน โดย "สามารถเทลคอม" ทุ่มทุน 50 ล้านบาท ตั้งบริษัท เทเลคอมเคลียริ่ง เฮาส์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่เพื่อทำธุรกิจบริการงานระบบ และระบบเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครือข่ายฯ ขณะที่ "สามารถ ไอ-โมบาย" ให้บริษัทย่อยตั้งบริษัทใหม่ 2 แห่งในมาเลเซีย และฮ่องกง ขยายตลาดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2549 บริษัทย่อยของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART จำนวน 2 แห่ง ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเรื่องแผนการขยายการลงทุน ประกอบด้วย บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL และบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM
นายไพโรจน์ วโรภาษ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2549 มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เทเลคอมเคลียริ่ง เฮาส์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจบริการระบบงาน ระบบเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเครือข่าย ระบบโปรแกรม และการประมวลผลข้อมูล ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 10 บาท โดยจะเริ่มดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม - กันยายน 2549 นี้
ทั้งนี้ SAMTEL จะถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ในส่วนของทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยจะชำระเงินลงทุนด้วยเงินสด 25% ของทุนจดทะเบียนในวันที่จดทะเบียนที่กระมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และยึดนโยบายจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ภายหลังการเพิ่มทุนและจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เพื่อรองรับการลงทุนในอุปกรณ์และระบบต่างๆ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 ทำให้คงเหลือเงินปันผลงวดสุดท้ายอีกหุ้นละ 0.15 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลและร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2549
ขณะที่การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 จะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2549 เวลา 15.30 น. นอกจากจะมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังจะมีการพิจารณาและอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งกลับเข้ามารับตำแหน่งต่อไปอีกวาระหนึ่งเป็นเวลา 2 ปี
ด้านนายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2549 อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท ซึ่งได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.25 บาท เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2548 คงเหลือจ่ายในงวดนี้อีกหุ้นละ 0.22 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล และเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2549
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 ในวันที่ 25 เมษายน 2549 เพื่อพิจารณาวาระการจ่ายเงินปันผล และอนุมัติให้บริษัท ไอ-โมบาย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ SIM ถือหุ้น 99.99%จัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ 2 แห่ง คือ ประเทศมาเลเซีย ทุนจดทะเบียน 5 ล้านริงกิต และฮ่องกง ทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท โดยถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมให้บริการข้อมูล สาระ และความบันเทิงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้บริการสื่อ Interactive Multimedia โดยการจัดตั้งบริษัทในครั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุริจสู่ตลาดภูมิภาค
พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติให้ต่อสัญญาจ้างการบริหารและการจัดการกับบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในอัตราค่าบริการเท่ากับสัญญาเดิม โดย SAMART เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SIM ในสัดส่วน 73.84% และมีกรรมการร่วมกัน คือ นายเจริญรัฐ วิไลลักษณ์ นายคุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ นายศิริชัย รัศมีจันทร์ และนายไพโรจน์ วโรภาษ
สำหรับรายละเอียดของสัญญาการบริหารและจัดการ ครอบคลุมการกำหนดกลยุทธ์ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและสถาบันการเงิน การบริหารจัดการด้านการเงินและการตลาด รวมทั้งการพัฒนาสื่อ และธุรกิจข้อมูล ข่าวสารและสาระความบันเทิง โดยทำสัญญา 1 ปี เริ่ม 1 มกราคม - 31ธันวาคม 2549 ซึ่งเมื่อสัญญาครบกำหนดแล้ว หากคู่สัญญา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ให้ถือว่าสัญญามีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิก โดยมีค่าตอบแทน 1 ล้านบาทต่อเดือน รวมทั้งปี 12 ล้านบาท
|
|
 |
|
|