|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“สวนสยาม”ใส่เกียร์ หลังปรับโครงสร้างหนี้เสร็จ เดินหน้าเต็มสูบ ลุยตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน เร่งหาเงินกู้ 600 ล้านบาท รีโนเวตครั้งใหญ่ ระบุเพื่อเพิ่มศักยภาพรับมือการแข่งขันเสรี ขณะเดียวกันต้องแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจไม่เกินปี 2551 หวังระดมทุน 1.5 พันล้านบาท สานฝันสร้างโครงการ “สยามซิตี้วอล์ค ไชยวัฒน์เผย ปีก่อนกำไร 40 ล้านบาทโต 150% ตั้งเป้าปีนี้ฟันกำไร 100 ล้านบาท เล็งขยายฐานลูกค้าต่างชาติจับมือบริษัททัวร์ เพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ของผู้ใช้บริการ
นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอมรพันธุ์นคร-สวนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน 2 บริษัท เพื่อเข้ามาดูเรื่องการใช้เงินสำหรับการลงทุน และระบบบัญชี เพื่อเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2551 ได้แก่บริษัท GLOBLEX ADVISORY จากประเทศอังกฤษ และ บริษัท PRUDENT SIAM SECURITIES
***เร่งหาเงินกู้รีโนเวตใหญ่รับมือเปิดเสรี***
โดยเบื้องต้น บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบวิธีหาเงินลงทุนให้กับสวนสยามวงเงิน 500-600 ล้านบาท เพื่อใช้รีโนเวตสวนสยามใหม่ทั้งหมด พร้อมเพิ่มเครื่องเล่นให้มีมากขึ้น ซึ่งวิธีที่ศึกษาอยู่ขณะนี้มี 3 แบบ คือ 1.กู้เงินจากสถาบันการเงิน 2.ขายตั๋วเงินล่วงหน้า และ 3. การออกหุ้นกู้ คาดว่าอีก 1 เดือนจะได้ข้อสรุป ซึ่งในส่วนของเครื่องเล่นใหม่ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มปีละอย่างน้อย 1 ชิ้น ล่าสุด กลางเดือนนี้ก็จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อไปเลือกซื้อเครื่องเล่นใหม่ๆ โยในปี 2551 อาจเพิ่มถึง 3-4 ชิ้น และทยอยปลดระวางเครื่องเล่นเก่าออกไปด้วย
โดยแผนงานปีหน้าที่จะใช้เงินจากวงเงินกู้ดังกล่าว ได้แก่ จัดสร้างห้องสมุดปลาพร้อมอะแควเรี่ยม มูลค่าลงทุน 160 ล้านบาท และ จัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์กลางน้ำพระอภัยมณี มูลค่าลงทุน 100 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นเรื่องของการรีโนเวตพื้นที่ และพัฒนาบุคลากร
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การรีโนเวตครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี เพราะนอกจากจะปรับปรุงสถานที่ด้วยการทาสีใหม่ให้ดูสดใส การทยอยเปลี่ยนห้องน้ำใหม่ทั้งหมด บริษัทยังให้ความสำคัญกับการอบรมพนักงานทุกคนที่คอยบริการอยู่ในทุกแผนกให้มีความเป็นมืออาชีพในระดับมาตรฐานสากลด้วย ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาพนักงานสวนสยามอยู่กับแบบครอบครัว แต่เมื่อเราต้องนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจสวนสนุกที่จะมีขึ้นในอนาคต สวนสยามจึงต้องมีการบริหารจัดการ และการบริการแบบมืออาชีพจริงๆ
***อัดกว่า80 ลบ.เปิดบิ๊กฮอลิเดย์รับปิดเทอม***
สำหรับแผนงานปีนี้ช่วงฤดูร้อน สวนสยามได้จัดเทศกาล Big Holiday 2006 ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม ถึง 14 พฤษภาคม พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ “บิ๊กดับเบิ้ลช็อค” เปิดประสบการณ์ขวัญผวา ด้วยการจัดสร้างหุ่นแอนิเมชั่น และเทคนิคแสงสีเสียง เดินเรื่องด้วยเรื่องราวความสยองขวัญจากทุกชนชาติ ด้วยงบลงทุนสร้าง 60 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีการแสดงกายกรรม”เต๋หยาง”จากประเทศจีน เพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาส สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี โดยบริษัทวางแผนใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอดปีที่ 20 ล้านบาท ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ และวิทยุเป็นหลัก คาดว่าจะมีประชาชนทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวสวนสยามในช่วงเทศกาลนี้ไม่น้อยกว่า 7 แสนคน
ทั้งนี้ในส่วนของรายได้ ปีที่ผ่านมา สวนสยามมีรายได้ที่ 280 ล้านบาท เติบโตจากปี 2547 ถึง 150% และมีผลกำไรประมาณ 40 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่กำไรประมาณ 20 ล้านบาท นับเป็น 2 ปีติดต่อกันที่บริษัทเรามีกำไรต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่า จะสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2551 หรืออย่างช้าก็ในปี2552 ได้อย่างแน่นอน ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ ที่ 350 ล้านบาท และมีกำไรไม่น้อยกว่า 90-100 ล้านบาท
“ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุนประมาณ 1:9 ซึ่งถือว่ายังสูงมาก โดยหนี้กับธนาคารกรุงเทพตอนนี้เราแฮร์คัดเหลือ 100 ล้านบาท ผ่อนชำระในเวลา 5 ปี ทำให้เราสามารถกลับมาลงทุนด้วยเครดิตของตัวเองได้ โดยไม่ต้องหาพันธมิตรร่วมทุน แต่ เราต้องการที่ปรึกษาที่เป็นมืออาชีพ โดยเร็วๆนี้จะตั้งที่ปรึกษาด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วย ส่วนการรีโนเวตใหม่ เรายังไม่เพิ่มค่าบัตรผ่านประตู แต่เครื่องเล่นใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น ผจญภัยแดนไดโนเสาร์ หรือ บิ๊กดับเบิ้ลช็อค ที่กำลังจะเปิด เราก็ขอเก็บค่าบัตรเพิ่มเติม ซึ่งลูกค้าเข้าใจดี”
**หาพันธมิตรทัวร์ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ******
นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า มีแผนที่จะรุกขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ด้วยการหาพันธมิตรที่เป็นบริษัททัวร์อินบาวนด์ ที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย โดยปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 30% จากปีก่อนมีสัดส่วนที่ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในสวนสยามทั้งหมด ตลาดหลักคือกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว พม่า จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงินที่ได้จากการระดมในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนหนึ่งจะนำมาดำเนินการสร้างศูนย์บันเทิงครบวงจร”สยามซิตี้วอล์ค” ตามแผนมที่วางไว้เดิม ซึ่งโครงการนี้น่าจะใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท นายไชยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในเดือนธันวาคมปีนี้ ตนเองจะวางมือการบริหารสวนสยามอย่างแน่นอน โดยปล่อยให้ลูก 4 คน มาบริหารงานต่อ ภายใต้การทำงานของคนรุ่นใหม่
|
|
|
|
|