ตลาดหลักทรัพย์แจงไม่ขอข้อมูลจากฟินันซ่าเพิ่มเรื่องขายหุ้นกู้บล.บีฟิท 298 ล้านบาทขึ้นอยู่กับบริษัทจะชี้แจงหรือไม่ แต่หวังให้ผู้ถือหุ้นจี้แทน เหตุเป็นเรื่องนโยบายการลงทุน "สุทธิชัย"เผย มีความเป็นไปได้ที่การเพิ่มทุนปิคนิค 1.4 พันล้านบาทส่อแววล่ม เหตุราคาใช้สิทธิแพงกว่าราคาซื้อขายในกระดาน หากล้มจริงขึ้นอยู่เจ้าหนี้ยอมแปลงหนี้เป็นทุนหรือไม่ พบนักลงทุนรายใหญ่เข้าไล่ราคาวอร์แรนต์ฟินันซ่า ระบุเป็นกลุ่มเดียวกับที่เข้าไล่ราคาวอร์แรนต์บง.สินอุตสาหกรรม ทำให้ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯจะไม่ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน)หรือFNS ,บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟินันซ่าจำกัด และ บล.บีฟิทจำกัด ให้มีการชี้แจงข้อมูลเติมอีกในเรื่องการซื้อขายหุ้นกู้แปลงสภาพประเภทด้อยสิทธิของบล.บีฟิทจำนวน 298.50 ล้านบาทอีก หลังจากที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการสอบถามและให้บริษัทดังกล่าวมีการชี้แจงเข้ามาแล้ว แต่บริษัท ฟินันซ่าตอบว่าไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลรายชื่อนักลงทุน 4 รายที่บริษัทได้มีการขายหุ้นกู้ของบล.บีฟิทได้ เพราะเป็นความลับนั้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไม่มีอำนาจบังคับให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทดังกล่าวจะมีการชี้แจงรายละเอียดหรือไม่

ทั้งนี้ก็หวังให้ผู้ถือหุ้นของบริษมีการสอบถามประเด็นเรื่องขายซื้อและขายหุ้นกู้แปลงสภาพฯดังกล่าวกับบริษัท เพื่ออธิบายเหตุผลในการซื้อขาย เพราะเป็นเรื่องนโยบายการลงทุนของบริษัทซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถที่จะให้บริษัทมีการชี้แจงรายละเอียด ได้

สำหรับการที่ตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทฟินันซ่ามีการชี้แจง เพราะต้องการให้บริษัทอธิบายเหตุผลการซื้อขายอย่างละเอียดว่าทำไมถึงมีการซื้อและขายภายในวันเดียวกัน ทั้งที่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็นว่า การซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือ บล.บีฟิทและหากเมื่อบริษัทฟืนันซ่ามีการแปลงสภาพจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลและยกเว้นส่วนต่างทางภาษี (Capital Gain) จากที่บล.บีฟิทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯทำไมไม่ถือหุ้นไว้สักระยะ

นายสุทธิชัย กล่าวว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน)หรือ EWC ให้มีการประสานกับบริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SGF เพื่อที่ทำความเข้าใจให้ตรงกันและชี้แจงกับมาที่ตลาดหลักทรัพย์ ในเรื่องที่ EWCมีการปล่อยกู้ให้กับ SGF จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีความเป็นห่วงในเรื่องการชำระเงิน ซึ่งหาก SGF ไม่สามารถชำระคืนเงินได้ก็จะเกิดผลเสียต่อEWCและผู้ถือหุ้น และการให้เงินกู้ดังกล่าวเป็นการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนหรือไม่ ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบหนังสือชี้ชวนอนุมัติเพิ่มทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่าใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

ทั้งนี้จากที่ได้มีการตรวจสอบงบการเงินของEWC พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์และกระแสเงินสดเพียงพอต่อการปล่อยกู้ได้ ซึ่งมีสินทรัพย์ 1,722 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 1,600 ล้านบาท มีหนี้สินเพียง 81 ล้านบาทก็มีความสามารถปล่อยกู้ได้ และไม่ผิดกฎหมาย

ส่วนกรณีการเพิ่มทุนของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ PICNI จำนวน 1,477.67 ล้านบาทให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาซื้อขายในกระดาน อยู่ที่ 0.50 บาท นั้นมีความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่สามารถเพิ่มทุนประสบความสำเร็จ ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเพิ่มทุนได้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ว่าจะยอดให้มีการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน หรือจะมีการฟ้องล้มละลายปิคนิค

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทีเอสอีซี จำกัด กล่าวว่า การที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฟินันซ่า ชุดที่ 1 หรือ FNS-W1 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มองว่า นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจึงทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

“FNS-W1 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากที่มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งเข้ามาเก็งกำไร ”นายเจริญ กล่าว

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า การที่ FNS-W1 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากมีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้น ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ดังกล่าว เป็นกลุ่มเดียวกับที่เข้าไปไล่ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิของบง.สินอุตสาหกรรม ชุดที่ 3 หรือ SICCO-W3 ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หุ้นของ FNS-W1 และ SICCO-W3เป็นหุ้นขนาดเล็ก ราคาไม่มาก ดังนั้นจึงทำให้สามารถเข้ามาไล่ราคาได้ง่าย