Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2543
ปูนซิเมนต์ไทย การขายหุ้นบริษัทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักยังมีอีก             
 

 
Charts & Figures

การขายหุ้นบริษัทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของปูนใหญ่ในรอบปีที่ผ่านมา
ตัวเลขทางการเงินแยกรายกลุ่มของเครือซีเมนต์ไทย


   
www resources

โฮมเพจ Michelin Thailand Homepage
โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย
โฮมเพจ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
ชุมพล ณ ลำเลียง
สยามมิชลิน กรุ๊ป, บจก.
Auto-parts




ช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา ถือเป็นช่วง ที่เครือซิเมนต์ไทย ได้มีการทยอยขายหุ้น และขายกิจการออกมาอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลพวงจากนโยบายลดบทบาทในบริษัท ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักลง คงเหลือธุรกิจที่จะเป็นธงนำของเครือเพียง 3 กลุ่มคือ ซีเมนต์ ปิโตรเคมี และกระดาษ

ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การลดบทบาทธุรกิจที่ไม่ใช่ธงนำก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยคณะกรรมการปูนซิเมนต์ไทย ได้อนุมัติให้ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทสยามมิชลินกรุ๊ปลง 10% จากเดิมที่ถืออยู่ 50% เหลือเพียง 40% โดยขายหุ้นส่วนดังกล่าวให้กับบริษัทมิชลิน ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนจากจากฝรั่งเศส ที่จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 60% แทน

สยามมิชลินกรุ๊ป เป็นโฮลดิ้ง คัมปะนีในธุรกิจยางรถยนต์ของปูนใหญ่ และเป็นผู้ผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่ง รถปิกอัพ จักรยานยนต์ และรถบรรทุก โดยใช้เครื่องหมายการค้า "มิชลิน" นอกจากนั้น ยังรับผลิตและหล่อดอกยางเครื่องบินให้กับสายการบินทั่วโลก

บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท แบ่งเป็น 4 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ก่อนหน้านี้ปูนซิเมนต์ไทยถือหุ้นอยู่ในบริษัทนี้ ในสัดส่วนเท่ากับมิชลิน คือ ฝ่ายละ 2 ล้านหุ้น

การลดสัดส่วนการถือหุ้นลงครั้งนี้ ปูนใหญ่ได้ขายหุ้นให้กับมิชลินจำนวน 4 แสนหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 445 ล้านบาท หรือเท่ากับราคาหุ้นละ 1,112.50 บาท

"เราได้กำไรจากการขายหุ้นล๊อตนี้ ประมาณ 250 ล้านบาท" ชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนซิเมนต์ไทย บอก

ปัจจุบัน สยามมิชลินกรุ๊ป มีโรงงานผลิตยาง 3 แห่ง อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบรี ที่อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ ที่อ.หนองแค จ.สระบุรี นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตแม่พิมพ์ยาง และโรงงานผลิตลวดโครงยาง (Steel Cord) อีกอย่างละ 1 แห่ง

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สยามมิชลินเพิ่งจะมีการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อขยายกำลังการผลิตยางที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จากปีละ 2.6 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นอีก 3.5 ล้านเส้น เป็นกำลังผลิตรวมเฉพาะที่โรงงานแห่งนี้ปีละ 6.1 ล้านเส้น และเมื่อรวมกำลังการผลิตจากทั้ง 3 โรงงาน จะสามารถผลิตยางได้ปีละ 9.6 ล้านเส้น โดยใช้เงินลงทุนในการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ถึง 3,820 ล้านบาท

การเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ เป็นผลพวงต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการขยายตัวสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังมีแนวโน้มดีต่อไปอีกในอนาคต แต่ปูนใหญ่ก็ไม่จัดให้เป็นธงนำของเครือ เนื่องจากไม่มีความชำนาญ นโยบายการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวหลังจากนี้ของปูนซิเมนต์ไทย จะเป็นเพียงแค่ผู้ร่วมทุน (Joint Venture) รายหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อกลางปี 2542 ปูนซิเมนต์ไทยก็เพิ่งลดสัดส่วนการถือหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทนวโลหะอุตสาหกรรม, บริษัทสยามเอทีอุตสาหกรรม และบริษัทผลิตภัณฑ์วิศวกรรมไทย จากเดิมที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เหลือเพียงบริษัทละ 29.9% โดยการขายหุ้นให้กับกลุ่มโตโยต้า

"ธุรกิจยางรถยนต์ เราถือว่าเป็นธุรกิจกลางๆ คือ ไม่ใช่ธุรกิจหลัก แต่ก็ไม่ใช่ธุรกิจที่เป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกลดบทบาท" ชุมพลกล่าว

"แต่ธุรกิจในกลุ่มนี้ หากใครเสนอราคามาดีๆ เราก็ขาย"

การเจรจาขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของปูนใหญ่ ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยชุมพลคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อาจจะมีการขายหุ้นของบริษัทในกลุ่มนี้ออกมาอีก 1-2 ราย

"เราไม่ต้องการให้คนทั่วไปมีความรู้สึกว่าเราอยากขายหุ้นในกลุ่มนี้มาก แต่ต้องให้เขาเสนอราคาที่ดีๆ มาก่อน แล้วเราจึงค่อยพิจารณา" เขาสรุป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us