บลจ.ยูโอบี ตอบรับความต้องการลงทุนในกองทุนคุ้มครองเงินต้นกลุ่ม “uob Sure” ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐบาล หลังยอดขายทะลุ 6,800 ล้านบาทภายในเวลา 3 เดือน เดินหน้าออกกองทุนใหม่อีก 2 กองทุนในเดือนมี.ค.นี้ ทั้ง “UOB Sure 6/5” ลงทุนระยะสั้น 6 เดือน และ “UOB Sure 12/2” ลงทุนระยะ 1 ปี โชว์จุดขายหลักให้โอกาสผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ส่วนกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ “UOBSIG” จะเปิดเสนอขายอีกครั้ง 14 มี.ค.นี้
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2549 นี้ บริษัทยังคงเน้นออกกองทุนที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยกองทุนในกลุ่ม UOB Sure ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นที่ต้องการของนักลงทุนเป็นอย่างมาก และสามารถสร้างยอดขายสูงถึง 6,800 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกองทุนตราสารหนี้ประเภทคุ้มครองเงินต้น โดยเน้นลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ภาครัฐบาล ประเภทคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรรัฐบาล, พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีอายุใกล้เคียงกับกองทุน กองทุนนี้จึงมีความเสี่ยงต่ำมากเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนที่มีความมั่นคงสูง และให้โอกาสผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
โดยในช่วงเดือนมีนาคมนี้ บริษัทเตรียมออกกองทุนใหม่อีก 2 กอง ได้แก่ กองทุน UOB Sure 6/5 สำหรับผู้ลงทุนที่ชอบการลงทุนระยะสั้นประมาณ 6 เดือน และกองทุน UOB Sure 12/2 สำหรับผู้ที่ชอบการลงทุนระยะปานกลางประมาณ 1 ปี ซึ่งจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในวันที่ 13 – 23 มี.ค. และ 13 – 20 มี.ค. นี้ตามลำดับ ทั้งนี้ กองทุนทั้ง 2 กอง จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก ทั้งตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ที่มีอายุใกล้เคียงกับอายุของกองทุน
นายวนากล่าวต่อว่า สำหรับกองทุน UOB Smart International Growth (UOBSIG) ที่ปิด IPO ไปเมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก สามารถทำยอดขายได้กว่า 223.98 ล้านบาทในช่วง IPO และสำหรับผู้ที่พลาดโอกาสในการสั่งซื้อกองทุนดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา กองทุนนี้จะเปิดขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดิม
สำหรับกองทุน UOB Smart International Growth (UOBSIG) เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ โดยนำเงินไปลงทุนในกองทุน United International Growth Fund (UIGF) ซึ่งเป็นกองทุนที่มุ่งลงทุนในหุ้นที่มั่นคง และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงทั่วโลก เป็นการกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง ในยามที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูง ภายใต้การบริหารของ UOB Asset Management ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจจัดการกองทุนในสิงคโปร์ ลงทุนผ่านกองทุนระดับ 4 ดาวจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P
“นอกจากนั้นกองทุน UIGF ของสิงคโปร์ ล่าสุดได้รับรางวัลกองทุน Global equity ที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมสำหรับระยะเวลา 5 ปีในปี 2006 จาก 2 สถาบัน ได้แก่ Singapore S&P Investment Fund Awards และ The Edge-Lipper Singapore Unit Trust Fund Awards โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี, 3 ปี และ 5 ปีของกองทุน UIGF ในรูปสกุลเงินบาทเท่ากับ 16.53%, 19.05% และ 6.13% ต่อปี* ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2548)” นายวนา กล่าว
|