Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มีนาคม 2549
ต้นทุนเมกะโปรเจกต์พุ่ง             
 


   
search resources

พิชิต อัคราทิตย์
Investment




MFCชี้ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบให้โครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ต้นทุนพุ่ง เตรียมเสนอผลการศึกษาให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีเร็วๆนี้ เผยเตรียมโรดโชว์กองทุนอิสลามิกฟันด์-ซูคุกให้กับกองทุนยักษ์ใหญ่ในมาเลเซียในสัปดาห์หน้า หวังผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการจัดตั้งกองทุน เพื่อลงทุนในภูมิภาค “ศุภกร”ยันมรสุมการเมืองไม่ส่งผลกระทบจนทำให้สถาบันจัดอันดับเครดิตหั่นเรตติ้งประเทศ

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะคณะกรรมการจัดตั้งองค์กรเพื่อระดมทุนและบริหารจัดการในการพัฒนาโครงข่าย : ระบบขนส่งมวลชน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานได้สรุปผลการศึกษาการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ระบบราง ซึ่งมีมูลค่าลงทุนประมาณ 4.3 แสนล้านบาท

ในโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งในแผนจะมีการเสนอให้มีการเชื่อมโยงระบบการขนส่งอย่างเป็นระบบไม่ว่าจะเป็นรถเร็ว หรือการเชื่อมโยงกับการขนส่งระบบเรือ เพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพในอนาคต

“ผลการศึกษาที่เราได้มีการสรุปในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะการลงทุนในรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่การศึกษาจะศึกษาในองค์ประกอบทั้งในส่วนของรถบีอาร์ที รถบัส การขนส่งทางน้ำ ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงเป็นระบบ ซึ่งมีการแบ่งเป็นระยะๆ ว่าในแต่ระยะจะมีการลงทุนจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะเสนอให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีเร็วๆนี้ เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน และนำเสนอให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมลงทุนในแต่ละเส้นทาง”นายพิชิตกล่าว

นายพิชิตกล่าวยอมรับว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์แน่นอน โดยในช่วงก่อนหน้า บลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะที่ทำหน้าที่ในการศึกษารูปแบบการลงทุนและวิธีการระดมทุนซึ่งได้มีการเสนอแนวคิดการระดมทุนผ่านการจัดตั้งกองทุนซูคุก ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อลงทุนในตราสารหนี้ หรือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน โดยไม่ขัดหลักศาสนาอิสลาม โดยก่อนหน้าได้มีการโรดโชว์นักลงทุนแถบตะวันออกกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ และการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากปัญหาการเมืองคาดว่าจะส่งผลให้ต้นทุนในการระดมทุนสูงขึ้นตามมา

อย่างไรก็ตาม ในการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าการก่อสร้างยังจำเป็นต้องเกิดขึ้น เพราะในระยะยาวรัฐบาลยังคงหลีกเลี่ยงที่จะลงทุนไม่ได้ เนื่องจากจำเป็นต้องลงทุน เพื่อสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ

นายพิชิต กล่าวว่า แนวคิดการลงทุนในระบบรางขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยคณะทำงานได้เสนอรูปแบบเป็น 3 ส่วนคือ รูปแบบที่ 1.รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานส่วนการลงทุนในตัวรถไฟฟ้าและระบบเดินรถเปิดทางให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน รูปแบบที่ 2.ให้เอกชนร่วมสัมปทาน และรูปแบบที่ 3.แบ่งการลงทุนเป็นช่วงๆ ไปขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าในการลงทุน

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนซูคุก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งรูปแบบกองทุนที่MFC

เสนอจัดตั้งก็เพื่อรองรับการระดมทุนจากนักลงทุนอิสลามเข้ามาลงทุนในโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ผู้บริหาร MFC จะเดินทางไปร่วมหารือกับบริษัทพีเอ็นบี เบอร์ฮาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของมาเลเซีย เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันถึงรูปแบบการลงทุน นอกจากนี้ ยังถือโอกาสประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนได้ร่วมลงทุนในกองทุนอิสลามิกฟันด์ ซึ่ง MFC ได้จัดขึ้นก่อนหน้า โดยมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นที่ไม่ขัดหลักศาสนาอิสลาม ขณะเดียวกันการเดินทางไปโรดโชว์ที่มาเลเซียครั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการผลักดันการจัดตั้งกองทุนในรุปแบบใหม่ๆ เพื่อเข้ามาลงทุนในภูมิภาค โดยมี MFC ร่วมบริหาร ซึ่งสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของบริษัทที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทจัดการกองทุนในระดับภูมิภาค และเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในการบริหารที่กระจายการลงทุนในยังต่างประเทศ

ขณะที่นายศุภกร สุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศจะมีความไม่แน่นอน แต่เชื่อว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ จะไม่ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทย เพราะพื้นฐานประเทศยังแข็งแกร่งสถานะทางการเงินมีความมั่นคง

“โดยส่วนตัวผมมองในแง่นักลงทุน เชื่อว่านักลงทุนจะต้องชะลอการลงทุนออกไป เพราะการเมืองยังมีความไม่แน่นอนแต่ถ้าทุกอย่างคลี่คลายก็คงจะกลับเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของ MFC เองตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ได้ปรับลดพอร์ตการลงทุนไปบ้างบางส่วนเนื่องจากตลาดหุ้นมีความผันผวน”นายศุภกร กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us