“อัศวิน อิงคะกุล” เจ้าของโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ เตรียมลงทุนอีกกว่า 70 ล้านบาท สร้าง เดย์รูม บิวตี้ซาลอน เลาจน์ และสแนกบาร์ ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในนามของ บริษัท มาสเตอร์มายนด์ เผยพร้อมเปิดให้บริการได้ทันทีเมื่อสนามบินเปิดให้บริการ ล่าสุดลงทุนซื้อแฟรนไชส์ โทนี่ แอนด์กาย สถาบันออกแบบทรงผมระดับโลก เปิดร้านซาลอน อัพเกรดจากธุรกิจเดิม

นายอัศวิน อิงคะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์มายนด์ คอนซัลแทนต์ จำกัด และเจ้าของกิจการโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ ผู้ได้รับสิทธิ์ ให้บริการ โรงแรมหรือห้องพักเดย์รูม และซีไอพี เลาจน์ ตลอดจนร้านทำผม หรือบิวตี้ซาลอน และ บริการนวดผ่อนคลาย ในพื้นที่ของสนามบินดอนเมือง(แอร์พอร์ต) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนกว่า 70 ล้านบาท เพื่อย้ายธุรกิจบริการทั้งหมดดังกล่าวที่มีอยู่ที่สนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยเป็นการเช่าพื้นที่จากบริษัท คิงส์ เพาเวอร์ แบ่งเป็น ส่วนของเดย์รูมกว่า 30 ล้านบาท บิวตี้ซาลอนประมาณ 10 ล้านบาทและอีกกว่า 20 ล้านบาท สำหรับสร้าง เลาจน์ สำหรับบริการผู้โดยสารชั้นบิสสิเนสคลาส และ เฟิร์สท คลาส

ขณะเดียวกันบริษัทฯได้ซื้อแฟรนไชส์จากสถาบันโทนี่ แอนด์ กาย ในวงเงิน 5 ล้านบาท เปิดร้านซาลอนในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้โทนี่ แอนด์ กาย เป็นสถาบันออกแบบทรงผมจากประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้บริการและมีสาขากว่า 500 แห่งทั่วโลก ในวงเงินดังกล่าว ส่วนหนึ่งจะนำมาใช้เพื่อการตกแต่งสถานที่ ซึ่งได้พื้นที่เปิดร้านมาจากคิงส์เพาเวอร์ จำนวน 100 ตร.ม. บริเวณชั้น 3 ผู้โดยสารขาออกฝั่งตะวันตก โดยจะให้บริการ สระ ไดร์ ซอยผม ทำสีผม และ ทำเล็บ พร้อมเปิดบริการทันทีเมื่อสนามบินเปิดใช้

ในส่วนเดย์รูม ซึ่งเป็นห้องพักสำหรับผู้โดยสารที่รอเปลี่ยนเครื่อง (ทรานซิส) จะสร้างทั้งหมด 80 ห้อง และเลาจน์ อีก 1-2 จุด นอกจากนั้นยังมีสแนกบาร์ โดยบริการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ชื่อ หลุยส์ แทรเวิร์น เดย์รูม แอนด์ ซีไอพี เลาจน์

“เลาจน์ของเราจะเปิดให้บริการแก่สายการบินที่ไม่มีเลาจน์เป็นของตัวเอง มาเช่า เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสาร ก่อนรอขึ้นเครื่อง ซึ่งก็สะดวกกับสายการบินที่ไม่ต้องมาลงทุนสร้างและเช่าพื้นที่ ซึ่งบริษัท มาสเตอร์มายนด์ นี้มา 15 ปี แล้ว ที่สนามบินดอนเมือง โดยเป็นการเช่าพื้นที่จากการท่าอากาศยาน แต่ที่สุวรรณภูมิ เราเช่าพื้นที่จาก บริษัท คิงเพาเวอร์ ซึ่งได้รับสัมปทาน บริหารพื้นที่ ในแอร์พอร์ตสุวรรณภูมิทั้งหมด”

อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจทั้งหมดที่มีอยู่ในสนามบินดอนเมืองขณะนี้ บริษัทฯจะคืนพื้นที่ให้กับการท่าอากาศยานฯ ภายหลังการย้ายสนามบิน ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ หลังจากที่บริษัทเปิดดำเนินกิจการนี้มากว่า 15 ปี โดยจะมีพนักงานบางส่วนย้ายไปด้วย แต่บางส่วนก็ขอทำงานใกล้ที่พักจะดีกว่า

บริษัท มาสเตอร์มายนด์ ในปี 2548 มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 10 ล้านบาท เศษ ซึ่งเมื่อย้ายมาสนามบินสุวรรณภูมิ น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ก็สูงขึ้นด้วย เพราะค่าเช่าพื้นที่ต่อตร.ม. จะแพงกว่าที่สนามบินดอนเมืองประมาณ 2-3 พันบาท

ทางด้านนางสาวศิริฉัตร ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการสถาบัน โทนี่ แอนด์ กาย (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า โทนี่ แอนด์ กาย ที่จะเปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิในครั้งนี้นับเป็นสาขา แรกที่ตั้งอยู่ในแอร์พอร์ตของโทนี่ แอนด์กายทั่วโลก จึงน่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ โดยลูกค้ากลุ่มหลักน่าจะเป็น นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ชาวต่างชาติ ตลอดจนพนักงาน หรือบุคคลที่ทำงานในแอร์พอร์ต ก็สามารถมาใช้บริการได้

อย่างไรก็ตาม โทนี่ แอนด์ กาย เปิดให้บริการในประเทศไทยมา 5 ปี ปัจจุบัน มี 3 สาขา คือ มาบุญครอง เซ็นเตอร์ , สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และ ที่จังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายอัศวิน กล่าวว่า นโยบายหลักปีนี้ ยังคงจัดกิจกรรมและออกแคมเปญให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างการรับรู้และเกิดแบรนด์รอยัลตี้ โดยกิจกรรมเน้นจับกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก อาทิ เดือนเมษายน ออกแคมเปญ ผู้สูงอายุทานฟรี เดือนสิงหาคม แม่ทานฟรี และเดิน ธันวาคม พ่อทานฟรี ซึ่งเมื่อวันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ จัดกิจกรรม ออล ฟอร์ล เลิฟ มีสมาชิกเข้าร่วมงานจำนวนมาก และ มีการจองห้องแต่งงานภายในงานไม่น้อยกว่า 50 คู่ โดยมิราเคิล แกรนด์ ให้ความสำคัญกับลูกค้าจัดประชุมสัมมนา และจัดงานแต่งงาน ซึ่งต่างจากโรงแรมอื่นๆทั่วไป