Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 มีนาคม 2549
จัดสรรโซนพระราม5เริ่มนิ่งหวั่นภาวะเศรษฐกิจกระทบลูกค้า             
 


   
search resources

Real Estate




จับตาจัดสรรโซนถนนพระราม 5 รับแรงกดดันภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง ผู้บริหารโครงการ เดอะเวอรีเดียนโฮม เปรยลูกค้าเข้าชมโครงการลด50% แต่ยอดขายยังไหลลื่นดี พร้อมเดินหน้าเปิดเฟส 2

นายพีรจักร ทิพย์จำนรรจ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขวัญทิพย์ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่อยู่ในวงการมาเกือบ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนได้เข้ามาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล โดยได้ปรับเปลี่ยนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาสู่โครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ภายใต้ชื่อ โครงการ เดอะ เวอรีเดียน โฮม บนเส้นถนนพระราม 5 เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทฯได้เข้ามาลงทุน บนที่ดินของตระกูลเนื้อที่ประมาณ 53 ไร่ จำนวน 150 แปลง มูลค่า 1,200 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เฟสละ 50 แปลง โดยเฟสที่ 1 ได้เปิดการขายตั้งแต่ต้นปี 2548 ระดับราคาเริ่มต้น 7-14 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายไปแล้ว 50% หรือประมาณ 25 แปลง และได้เริ่มพัฒนาในเฟสที่ 2 ซึ่งจะมีการปรับราคาการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างประมาณ 3-5%

" คุณปู่และคุณพ่อผม คือนายธีรพล ทิพย์จำนรรจ์ ทำธุรกิจอสังหาฯมากว่า 40 ปี ซึ่งในช่วงแรกที่คุณปู่ทำยังไม่ได้ใช้ชื่อขวัญทิพย์ ต่อมาทางคุณพ่อได้จัดตั้งบริษัทเมื่อปี 2521 และเริ่มลงทุนโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์มาแล้วหลายทำเล อาทิ อาคารพาณิชย์ที่ประชาชื่น จำนวน 30 ห้อง ที่ปิ่นเกล้า 100 ห้อง หรือที่หนองแขม เพชรเกษม 49 จำนวน 350 ห้อง นอกจากนี้ยังได้ใช้บริษัทในเครือพัฒนาหมู่บ้าน ภายใต้บริษัท ภัสรี และเคยทำโครงการคอนโดมิเนียมราคาถูกประมาณ 4-5 แสนบาท ภายใต้ชื่อ บางแค คอนโดเรสซิเด้นท์ บริหารโดยบริษัท ศรีกมล เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งตนมีส่วนในการดูโครงการคอนโดฯ ก่อนตัดสินใจมาทำบ้านเดี่ยวระดับบนด้วยตนเอง"นายพีรจักร กล่าว

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท ศรีกมล เทรดดิ้งฯ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ส่วนบริษัท ขวัญทิพย์ จัดตั้งเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2521 ทุนจดทะเบียน 320 ล้านบาท

นายพีรจักร กล่าวว่าสาเหตุที่เลือกทำเลบนถนนพระราม 5 เนื่องจากที่ดินดังกกล่าวมีศักยภาพและถือเป็นโครงการที่ติดถนนหลักใกล้กับวงแหวน และจากการสำรวจก่อนเริ่มพัฒนาโครงการเกือบ 1 ปี โครงการบ้านเดี่ยวจะเสนอมีทั้งระดับราคาที่สูงและกลาง ซึ่งถ้าบริษัทฯจะเข้ามาทำตลาดจะต้องหาจุดต่าง โดยเรื่องของทำเลก็เป็นจุดต่างที่เด่น และมีการออกแบบสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีถึงบีบวกแต่จะพยายามไม่ก้าวไปถึงลูกค้าระดับเอ

" ตอนนี้ทำเลบนถนนพระราม 5 แข่งขันกันรุนแรงและมีโครงการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการคู่แข่งที่ชนเราตรงๆก็คือ ลัดดารมย์ของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ แต่เรื่องแบบบ้านจะมีความแตกต่างกัน และโอกาสที่คู่แข่งจะเปลี่ยนแบบคงทำได้ยาก" นายพีรจักรกล่าวและว่า แนวทางการพัฒนาโครงการของบริษัท จะยึดหลักการลงทุนทีละโครงการไม่ขยายตัวทีเดียวหลายโครงการเหมือนบริษัทอสังหาฯรายอื่น ๆ เนื่องจากต้องการทำให้ดีที่สุด ประกอบกับหากลงทุนหลายๆโครงการ อาจจะมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะมีความต่อเนื่องไปถึงลูกค้า แต่ที่ดินในโครงการ เดอะ เวอรีเดียน โฮม เป็นที่ดินของตระกูล ทำให้ต้นทุนในส่วนของที่ดินเมื่อเทียบกับคู่แข่งอยู่ในระดับที่ได้เปรียบ และอาจจะไม่ถือเป็นต้นทุนที่เร่งด่วนต่อการเร่งรีบพัฒนาโครงการ

ด้านนางอัญชิสา ทิพย์จำนรรจ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัทฯ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการขยายตัวของโครงการอสังหาฯบนถนนเส้นพระราม 5 เติบโตอย่างมาก โดยมีบริษัทขนาดใหญ่และกลางเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการเอาใจใส่ในเรื่องการสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานะ การดูแลลูกค้า และพัฒนาโครงการด้านหน้าก่อน ซึ่งต่างกับบางบริษัทที่จะเก็บส่วนนี้ไว้เพื่อเสนอราคาที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกบ้านที่ต้องการได้

อย่างไรก็ตาม จากสภาวะตลาดอสังหาฯและทิศทางของเศรษฐกิจ ทำให้ปลายปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านเดี่ยวทุกระดับราคาเริ่มชะลอตัว สังเกตได้จาก ลูกค้าที่เข้ามาดูโครงการของบริษัทได้ลดลงไปกว่าครึ่ง จากเฉลี่ย 60-70 รายต่อเดือนลงมาเหลือ 30-40 รายต่อเดือน ลูกค้าบางรายใช้เวลาตัดสินใจที่นานขึ้น แต่ก็ยังมีลูกค้าบางราย หันกลับมาซื้อบ้านในโครงการของบริษัทภายในระยะเพียง 2 วันก็มี อนึ่ง ในวันที่ 25-26 มี.ค.นี้ ทางบริษัทจะมีเปิดตัวโครงการและจัดรายการขอบคุณลูกค้าที่จองซื้อบ้านและลูกค้าที่เข้ามาชมโครงการ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us