เชนย่า ชี้ตลาดชาเขียวปีนี้โตตามความต้องการของตลาดแท้จริง มั่นใจตลาดยังโตได้มากกว่าน้ำอัดลม ล่าสุดทุ่ม 30 ล้านบาท เปิดตัวรสชาติใหม่”ซุปเปอร์ เลมอน”ลงสมรภูมิเซกเมนต์ใหญ่มีสัดส่วน 70 %ของตลาดรวม ลั่นกลองไตรมาสสามเสริมทัพอีกหนึ่งรสชาติใหม่ สิ้นปีแชร์พุ่ง 10%

นายชัชชวี วัฒนสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอซี เบฟ เวอร์เรจ จำกัด ผู้จำหน่ายชาเขียว ยี่ห้อเชนย่า เปิดเผยว่า ภาวะตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในปีนี้จะเติบโตตามสภาพของความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง โดยมีมูลค่าตลาด4,000-5,000 ล้านบาท หลังจากในปีที่ผ่านมาตลาดถูกกระตุ้นจากแคมเปญโปรโมชั่น ทำให้ตลาดขยายตัวอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด แต่เมื่อโปรโมชั่นจบลงตลาดเริ่มนิ่ง นอกจากนี้ในปีนี้โอกาสที่จะเหลือผู้ประกอบการชาเขียวลดลงจาก 42 ราย เหลือเพียง 10 รายเท่านั้น เนื่องจากผลการแข่งขันในเรื่องของราคาที่จะมีมากขึ้น

“การเหลือผู้เล่นที่น้อยราย เพราะได้รับผลกระทบจากการแข่งขัน จนทำให้ต้องหยุดผลิตและระบายสต๊อกสินค้า เนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะแข่งขันต่อไปได้อีก ประกอบกับว่าสถานการณ์ของตลาดเปลี่ยนผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องของคุณค่าสินค้ามากกว่าจะคำนึงถึงโปรโมชั่นเหมือนในอดีต”

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มชนิดอื่น ชาเขียวพร้อมดื่มก็ยังสามารถเติบโตได้อีกมากกว่าน้ำอัดลม เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นชาเขียวพร้อมดื่มจึงยังมีโอกาสโต ถึงแม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตของตลาดปลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ยุคขาลงก็ตาม แต่การเติบโตของชาเขียวจะกระจุกตัวอยู่ใน 4-5 ยี่ห้อในตลาด ที่มีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่หวือหวาเหมือนกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

นายชัชชวี กล่าวว่า แนวทางการตลาดเชนย่าจะตอกย้ำถึงความโดดเด่นและแตกต่างระหว่างเชนย่ากับคู่แข่ง ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมของเครื่องดื่มชาเขียวที่มีความแตกต่าง โดยล่าสุดได้ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาทในการกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วยการนำเสนอชาเขียวรส ซุปเปอร์ เลมอน ซึ่งถือว่าตลาดน้ำผึ้งผสมมะนาวเป็นตลาดใหญ่มีสัดส่วนถึง 70% ของตลาดรวมทั้งหมด ที่เหลืออีก 10-15%เป็นออริจินัล นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่และกิจกรรมส่งเสริมการขายรวมทั้งการแจกสินค้าตัวอย่างจำนวน 1 แสนขวด คาดว่าจะทำให้ยอดขายของชาเขียวเชนย่าเติบโต30-40%

ผลประกอบการในปีนี้ ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมาจากชาเขียวพร้อมดื่ม 300 ล้านบาท อีก 100 ล้านบาทมาจากชานมที่จำหน่ายตามร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งปัจจุบันชาเขียวเชนย่ามีส่วนแบ่งเพียง 1% โดยสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 10 % ซึ่งจากการการเปิดตัวรสชาติซุปเปอร์ เลมอน และรสชาติใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาสสามของปีนี้ โดยปัจจุบันผู้นำตลาดชาเขียว คือ โออิชิมีส่วนแบ่ง 60% รองไปเป็น ยูนิฟ เกือบ 20% ที่เหลือเป็น เซนชะ ,เพียวริคุ และโมชิ ซึ่งมีส่วนแบ่งเฉลี่ยยี่ห้อละ 2-3%