|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไอทีวี เดินหน้าจับธุรกิจนิวมีเดียเต็บสูบ ในรูปแบบ อี-นิวส์ หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสื่อนี้เป็น 10% ของรายได้รวมในอีก 3 ปีข้างหน้า เหตุ คนรุ่นใหม่ใส่ใจข่าวสาร ระบุจากการเก็บข้อมูลพบ คนรุ่นใหม่วัย 25-35 ปี สนใจรับรู้ข่าวสารเพิ่มขึ้น ล่าสุดจับมือ 5 พันธมิตรในกลุ่มธุรกิจนิวมีเดีย จับข่าวใส่รายการ หวังสร้างแบรนด์ และตอกย้ำความเป็นผู้นำสถานีข่าวสาร
นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เปิดเผยว่า บริษัทจะขยายงานด้านนิวมีเดียให้มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อในรูปแบบ อี-นิวส์ เพื่อตอบสนองความต้องการให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีรูปแบบเป็นไลฟสไตล์มากขึ้น
ล่าสุดจับมือพันธมิตร 5 ราย ได้แก่ 1.VGI Global Media สื่อบนสถานีรถไฟฟ้า BTS ,2.POV Media Group สื่อในลิฟท์อาคารธุรกิจชั้นนำ ,3.Matching Movie Town สื่อทันสมัยผ่านจอ Panoramic LED ในพื้นที่ย่านสยามเซ็นเตอร์ และ ดิสคัฟเวอร์รี่ ,4.How Come Entertainment สื่อบริเวณชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดิน และ 5.Take a Look จอ LED ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หน้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซา ในการนำเอารายการข่าวไปออกอากาศยังสื่อทั้งหมดที่กล่าวมา โดยไอทีวีจะเป็นคอนเทนส์โพรวายเดอร์ คือเป็นผู้จัดทำข้อมูลด้านข่าวไปใส่ไว้ให้ ซึ่งตรงนี้ บริษัทฯลงทุนเพียงแค่พนักงาน ส่วนเรื่องระบบ แต่ละบริษัทพันธมิตรลงทุนกันเอง
ทั้งนี้พันธมิตรแต่ละรายที่กล่าวมามีฐานผู้ชมมากกว่าแสนคนต่อวันต่อรายโดยเฉพาะ ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สยามเซ็นเตอร์ และ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเบื้องต้นเราไม่คาดหวังรายได้จากธุรกิจนี้ แต่ต้องการสร้างแบรนด์ไอทีวีให้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น และต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสถานีข่าวสาร ส่วนในอนาคตอาจมีรายได้เกิดจากส่วนนี้ด้วย เพราะปัจจุบันพบว่าฐานผู้ชมรายการข่าวที่เพิ่มสูงสุด คือกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานช่วงอายุ 25-35 ปี นอกจากนั้นในกลุ่มวัยรุ่นก็เริ่มสนใจข่าวสารมากขึ้น
ปัจจุบันรายได้หลัก 60% ของบริษัท ยังคงเป็นรายได้ที่มาจากรายการข่าวของไอทีวี แต่ในอนาคตเชื่อว่า รายได้ที่เกิดจากนิวมีเดีย จะมีอัตราเติบโตในสัดส่วนที่มากกว่าส่วนอื่น โดยเฉพาะในมีเดียใหม่ๆ ที่เรียกว่า อี-นิวส์ ซึ่งบริษัทคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้าวหน้า รายได้จากธุรกิจอี-นิวส์ จะมีสัดส่วน 10% ของรายได้รวม ดังนั้นในวันนี้เราจึงเร่งพัฒนา และปูฐานกำลังคนให้แข็งแกร่ง
“เดือนหน้าเราจะเปิดตัวข่าวในรูปแบบ MMS คือเป็นข่าวผ่านมือถือพร้อมมีรูปภาพนิ่งประกอบ ซึ่งปัจจุบัน เรามีบริการข่าวผ่านมือถืออยู่แล้วในรูปแบบ SMS ซึ่งมีเฉพาะข้อความอย่างเดียว ซึ่งยอดสมาชิกเติบโตราว 10% ทุกเดือน”
นายทรงศักดิ์ กล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมทีวีปีนี้ว่า ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย 2 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ยังคงเติบโตเป็นปกติ สำหรับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ หากยืดเยื้อ หรือรุนแรง จะมีผลกับการวางโฆษณาของเจ้าของสินค้าได้ เพราะทุกฝ่ายต้องระมัดระวัง ประกอบกับผู้บริโภคอาจชะลอกำลังซื้อ แต่เชื่อว่า สถานการณ์คงไม่รุนแรง สำหรับไอทีวี ปีนี้น่าจะเติบโตมากกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมโดยรวม คือมากกว่า 6-10% แต่น้อยกว่าปีก่อน เพราะ ในปี 2548 บริษัทมีการปรับปรุงผังรายการในหลายๆอย่าง ซึ่งทั้งหมดส่งผลให้ไอทีวีมีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผู้ชมในกลุ่มรายการข่าว และเป็น รายการละคร และ วาไรตี้ ส่วนกลยุทธ์ ที่เราหันมาผลิตรายการเอง ก็มีส่วนทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
“
การเติบโตของไอทีวี ที่วัดได้จากเรตติงที่เพิ่มขึ้น หากเป็นรายการข่าว มาจากหลายปัจจัย เช่น สถานการณ์ทางการเมือง ทำให้คนสนใจติดตามข่าวสาร และการขยายฐานผู้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตรงนี้จึงเป็นจุดที่เราต้องให้ความสำคัญกับนิวมีเดีย” นายทรงศักดิ์กล่าว
|
|
|
|
|