Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 มีนาคม 2548
สยามอินเตอร์ฯเดือดฟ้องอิทธิวัฒน์ เบี้ยวสัญญา รวม47ล้าน โมเมคลื่น101             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย, บมจ.
Entertainment and Leisure
Law




สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ผู้บริหาร “สปอร์ต เรดิโอ” สุดทน ฟ้องทั้งอาญาและแพ่งเจ้าพ่อคลื่นวิทยุ “อิทธิวัฒน์ หรือ ปิติพัฒน์ เพียรเลิศ” ที่เสนอให้จัดรายการคลื่นฮ็อตของ บก.สูงสุด เอฟเอ็ม 101 ช่วงปลายปีที่แล้วด้วยเงินสดก้อนโตกว่า 20 ล้าน แต่เคลียร์คลื่นให้ไม่ได้ เจ้าตัวดิ้นแต่งตั้งทนายขอเลื่อนคดีอาญา ศาลเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้อง 22 พฤษภาคมนี้ ยันเป้าหมายรายได้วิทยุเดิม 100 ล้านบาท หลังได้ช่วงเวลาคลื่น 105 วิสดอมเรดิโอแทน

นายปราชญ์ ไชยคำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าบริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากกรณีที่ไม่ได้ทำวิทยุคลื่น 101 เอฟเอ็ม ตามที่ได้มีการเจรจาและตกลงกันไว้กับทางบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ตเวอร์ค จำกัดก็ตาม เพราะได้เกิดการผิดสัญญาจากคู่กรณี ทำให้แผนการดำเนินงานต้องมีการปรับเปลี่ยนโดยเฉพาะแผนการทำตลาดในช่วงฟุตบอลโลกปีนี้ แต่ทั้งนี้ยังยืนยันตามเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 100 ล้านบาท

โดยบริษัทฯได้เข้าบริหารคลื่นวิทยุ 105 วิสดอมเรดิโอของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยแทน ในช่วงเวลา 20.30-09.00 น.ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ และช่วงเวลา 17.00-07.00 น. ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นรูปแบบสปอร์ตเรดิโอ จากเดิมที่คาดว่าจะได้ทั้ง 24 ชั่วโมงจากคลื่น 101

นอกจากนั้นทางฝ่ายบริหารบริษัทฯยังได้ให้ทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดไปจัดแผนการทำงานเพื่อไปให้ได้ถึงเป้าหมายด้วย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่กันมานานก็เข้าใจ ยังไม่มีการถอนโฆษณาออกจากเดิมที่ได้มีการเจรจากันไว้ และพร้อมที่จะนำเม็ดเงินมาลงโฆษณาในคลื่นที่ได้ใหม่แทน

สำหรับช่วงฟุตบอลโลกนี้บริษัทฯได้เตรียมแคมเปญต่างๆไว้แล้วโดยไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ และตั้งเป้าหมายลูกค้าประมาณ 6 ราย ซึ่งขณะนี้ได้แล้วคือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ส่วนที่เหลือคาดว่าจะสามารถสรุปได้ประมาณปลายเดือนนี้ นอกจากนั้นก็จะมีการทำโรดโชว์และจัดกิจกรรมต่างๆ

ฟ้องอิทธิวัฒน์เบี้ยวสัญญา

ทั้งนี้ นายปราชญ์ ไชยคำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากบริษัทฯ ให้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอิทธิวัฒน์ หรือ ปิติพัฒน์ เพียรเลิศ มีฐานะเป็นกรรมการของบริษัท และ ฐานะนิติบุคคล ของบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ตเวอร์ค จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากจำเลยที่ 1 และ 2 อ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิในการออกอากาศคลื่นวิทยุ เอฟเอ็ม 101 เมกกะเฮิร์ตซ์ กอง บก.ทหารสูงสุด และเสนอให้โจทก์ผลิตรายการข่าวสารและกีฬาออกอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549

จำเลยทั้งสองได้ทำบันทึกข้อตกลงให้กับโจทก์ในการออกอากาศที่คลื่นวิทยุ เอฟเอ็ม 101 เมกกะเฮิร์ตซ์ โดยเรียกเงินจำนวน 20,400,000 บาท พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,428,000 บาท และโจทก์ได้จ่ายเงินจำนวน 21,828,000 บาท โดยโอนให้จำเลยในวันที่ 2 ธันวาคม 2548 จำนวน 10,000,000 บาท และส่วนที่เหลือ 11,828,000 บาทได้โอนในวันที่ 16 ธันวาคม 2548

การยื่นฟ้องในคดีอาญา ศาลแขวงพระโขนงได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 6 มีนาคม 2549 แต่จำเลยได้ให้ทนายไปขอเลื่อนคดีออกไป โดยจะขอเวลาในการหาเงินมาชำระให้กับโจทก์ ศาลจึงให้เลื่อนไปนัดไต่สวนมูลฟ้องใหม่ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 เวลา 9.00 น.

ส่วนการฟ้องคดีแพ่งนั้น นายปราชญ์ กล่าวอีกว่า ได้ยื่นฟ้องในข้อหาละเมิด ผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยขอให้จำเลยชำระเงินที่รับไปแล้วรวมดอกเบี้ยจำนวน 22,088,141.92 บาท และเรียกค่าขาดประโยชน์อีกจำนวน 25,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 47,088.141.92 บาท

“ผมไม่รู้จักคุณปิติพัฒน์ หรือคุณอิทธิวัฒน์ เป็นการส่วนตัว แต่ทราบว่า คุณปิติพัฒน์ เป็นผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสถานีวิทยุ เมื่อมีการเจรจาและพูดคุยทางธุรกิจ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจที่ต้องจ่ายเงินกันอยู่แล้ว เราก็จ่ายตามที่คุณปิติพัฒน์ แจ้งมา เมื่อคนทำธุรกิจรับเงินแล้ว และให้ความมั่นใจในการจัดหาคลื่นและส่งมอบคลื่นจะต้องทำให้ได้ แต่เมื่อไม่ได้คลื่น เราเสียหาย จึงต้องขอพึ่งบารมีศาล ยื่นฟ้องอาญา และ แพ่ง ไม่แน่ว่าจะมีอีกกี่รายที่โดนในลักษณะเดียวกันนี้” นายปราชญ์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us