|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ดัชมิลล์” ทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาท เปิดตัวนมเปรี้ยว ไขมันต่ำ พร้อมดื่ม“ดัชมิลล์ดีไลท์” บุกตลาดในเขตกทม. ปริมณฑล ตั้งเป้าภายใน 2 ปี ขึ้นเป็นอันดับ 2
นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผย ว่า ขณะนี้บริษัท แอลซี-ดีไลท์ จำกัด ซึ่วเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวไขมันต่ำพร้อมดื่มตราดัชมิลล์ ดีไลท์ และเป็นบริษัทในเครือดัชมิลล์ มีความพร้อมที่จะนำดีไลท์วางขายในตลาดกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว โดยในปีนี จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยงบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 70 ล้านบาท
บริษัทฯคาดว่าในปีนี้ ดีไลท์ จะมียอดขายเพิ่ม 20 -25% ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดในอันดับ 3 ทั้งนี้ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มที่มีจุลินทรีย์ มีมูลค่าตลาดรวม 4,000 -5,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 10% และบริษัทฯตั้งเป้าว่าจะครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 ภายในปี 2551 ซึ่งยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นมาจากผู้บริโภคในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งปัจจุบันนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นว่า ตลาดนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ มีโอกาสให้การขยายตัวอีกมาก
“ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา ดีไลท์ ได้ทำการวางจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างจังหวัด บริษัทฯใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เข้าถึงลูกค้าโดยการขายตรง ผ่านสาวดีไลท์ที่มีความพร้อมในการให้ข้อมูลกับลูกค้า อีกทั้งเครื่องแบบที่ดูทันสมัย ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าโดนเด่น ในด้านอาหารนมเพื่อสุขภาพ สำหรับคนทันสมัยและห่วงใยสุขภาพ ด้วยประโยชน์จากจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส เคซีไอ ในดีไลท์ โดยมีสโลแกนว่า “ดีทุกวัย ดื่ม ดีไลท์ทุกวัน” ปัจจุบันบริษัทมี สาวดีไลท์ กว่า 1,000 คนทั่วประเทศ ”
ที่ผ่านมาดัชมิลล์ได้ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท ในการลงทุนเรื่องเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตทั้งหมดนี้ด้วย ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก หากมีการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจและเหมาะสมกับรสนิยม ความชอบ และพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง บริษัทจึงให้ความสำคัญในการสร้าง ฐานการผลิตที่เข้มแข็ง และมีทีมวิจัยที่มีประสิทธิภาพ และปี 2549 นี้ เป็นปีสำคัญสำหรับการสร้างฐานผู้บริโภค และสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อขยายฐานผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ
|
|
|
|
|