|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอสเคอินเตอร์กรุ๊ป ปรับระบบทัพเพอร์แวร์ใหม่หลังจากรับสิทธิ์นาน 5ปีทำตลาดในไทย งัดแผนขยายช่องทางจำหน่าย ค้าปลีก คีออส เสริมขายตรงที่ยังคงเป็นหลักกว่า 80% หวังรายได้ปีแรก 300 ล้าน
นายอรรถพล ชัยนันท์สมิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เค อินเตอร์ กรุ๊ป 2005 จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า หลังจากที่บริษัทเอสเคฯซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยนายสุวิทย์ และนางลาวัณย์ คุณกิตติ ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทัพเพอร์แวร์ในประเทศไทยจากบริษัทแม่ที่อเมริกาเป็นเวลานาน 5 ปีเริ่มตั้งแต่ปีนี้ ขณะนี้บริษัทฯได้ทำการปรับโครงสร้างการทำงานใหม่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้รับโอนสิทธิ์และปัจจัยอื่นทั้งสมาชิก ช่องทางและระบบจากบริษัทเดิมที่ทำตลาดมานานกว่า 30 ปี
ทั้งนี้บริษัทเอสเคฯถือเป็นบริษัทแรกที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รับสิทธิ์ในการทำตลาดรายแรกในประเทศไทยแต่เป็นรายที่สองในตลาดโลกรองจากประเทศไต้หวัน ส่วนบริษัทเดิมคือ ทัพเพอร์แวร์ ประเทศไทย นั้นถือเป็นบริษัทสาขาของทัพเพอร์แวร์ที่อเมริกาและจ้างคนไทยเป็นผู้บริหาร
โดยบริษัทเอสเคฯตั้งเป้าหมายยอดขายในปีแรกที่เข้ามาทำตลาดประมาณ 300 ล้านบาท และจะเพิ่มยอดขายขึ้นเฉลี่ย 10% ทุกปี จากเดิมก่อนหน้านี้บริษัทเก่าทำไว้ประมาณ 150 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นมาถึง 2 เท่า ซึ่งบริษัทฯเดิมทำมานานกว่า 30 ปีแล้ว และเคยทำยอดขายได้สูงสุดก็ประมาณ 200 กว่าล้านบาท โดยจะมีการลงทุนในด้านระบบต่างๆเป็นหลักสิบล้านบาท และจะตั้งงบประมาณด้านการตลาดไว้ประมาณ 10% จากยอดขายหรือประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อรุกการทำตลาดเต็มที่
นายอรรถพลกล่าวด้วยว่า โครงสร้างการบริหารของบริษัทฯจะแบ่งออกเป็น 4 ฝ่ายหลักคือ ฝ่ายขาย รับผิดชอบโดยนางสาวยุราพร สร้อยสุวรรณ ฝ่ายการตลาดรับผิดชอบโดยนายกีรติ โพธิสุวรรณ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายคลังสินค้า ซึ่งผู้บริหารทั้ง 4 ฝ่ายนี้ก็ล้วนแล้วแต่อยู่กับทัพเพอร์แวร์ของบริษัทเดิมมานานล้วนเป็นลูกหม้อทั้งสิ้น จึงถือว่ามีประสบการณ์ที่พร้อมในการรุกตลาด แผนงานหลักๆจะขยายช่องทางการจำหน่ายแบบใหม่คือ ในเชนค้าปลีก การขายแฟรนไชส์ในรูปแบบคีออส และการขายตรงแบบเดิม
นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เอส เค อินเตอร์ กรุ๊ป 2005 จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ทัพเพอร์แวร์ในประเทศไทยหลังจากการเข้ามาจำหน่ายและได้รับความนิยมโดยผ่านระบบขายตรงและเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากว่า 39 ปี โดยในปี 2548 ที่ผ่านมามียอดจำหน่ายถึง 150 ล้านบาท
ทั้งนี้โดยหลังจากที่บริษัทฯได้เข้ามาดูแลในด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ทัพเพอร์แวร์ ซึ่งในปัจจุบันมี Product line ที่ครอบคลุมบรรจุภัณฑ์พลาสติกบรรจุอาหารมากกว่า 1,000 รายการ เราจึงได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดโดยเน้นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น ทั้งทางด้านการค้าปลีกโดยผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ระบบแฟรนไซส์ และระบบขายตรง
“ตอนนี้เราเริ่มวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมเป็นที่แรก และจะขยายช่องทางไปยังสาขาอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะขยายเพิ่มเป็น14 สาขา ภายในปีนี้ รวมทั้งให้ความสำคัญในส่วนของระบบการขายตรงซึ่งปัจจุบันมีไดเร็คเตอร์อยู่ประมาณ 25 ราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย ภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังได้ขยายการจำหน่ายโดยผ่านระบบแฟรนไซส์อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจากการรุกตลาดอย่างเต็มที่ในปีนี้ จะทำให้เราสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้คือ 300 ล้านบาท” นายสุวิทย์ กล่าว
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ในส่วนของการขายตรงนั้นยังเป็นหัวใจหลัก ขณะนี้มีสมาชิกประมาณ 50,000 รายที่อยู่ในระบบขายตรง และมีระดับผู้อำนวยการกลุ่มประมาณ 25 ราย มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสมาชิกให้ได้อีกอย่างต่ำถึงสิ้นปีนี้อีก 20% และเพิ่มระดับผู้อำนวยการกลุ่มให้มากขึ้นอีก เพื่อกระจายการทำตลาดไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ทัพเพอร์แวร์ยังเข้าไม่ถึงผู้บริโภคซึ่งจากการสำรวจพบว่า ผลิตภัณฑ์ทัพเพอร์แวร์มีฐานลูกค้าเดิมในต่างจังหวัดเฉลี่ย 5% ซึ่งสัดส่วนลูกค้าของทัพเพอร์แวร์นั้นจะมาจากต่างจังวหวัดมากกว่า 60-70% และในกรุงเทพฯประมาณ 30-40%
ในช่องทางการขายตรงนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับรูปแบบใหม่ จากเดิมที่สายงานขายตรงนี้จะแบ่งเป็นระดับหลายชั้นเป็นแนวลึกมากกว่า 5-6 ชั้น โดยคาดว่าจะปรับลดให้เหลือเพียง 2-3 ชั้นเท่านั้น และจะขยายในแนวกว้างมากกว่า เพื่อเป็นการขยายฐานกละตจลาดให้กวง้างมากจขึ้น
สำหรับอีกช่องทางหนึ่งคือ การขายแฟรนไชส์ในรุปแบบคีออส โดยจะเปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกของทัพเพอร์แวร์เท่านั้น ในการเปิดคีออสในสถานที่และทำเลที่มีความเหมาะสม ซึ่งบริษัทฯจะให้สิทธิ์ในการนำโลโก้ของทัพเพอร์แวร์และของบริษัทฯไปติดตั้งซึ่งจะเป็นการสร้างชื่อและการันตีให้กับผู้บริโภคได้ด้วย โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้คาดว่าจะเปิดได้ประมาณ 50 จุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและระบบการขายแฟรนไชส์คีออสอยู่
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัทเดิมที่เคยจำหน่ายเคยทำรูปแบบคีออสมาแล้วเช่นกันแต่เป็นการทำของสมาชิกเองแต่ก็ไม่ได้เป็นรูปแบบที่ชัดเจน และได้ยกเลิกไปในภายหลัง
ภายหลังการขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆในปีนี้คาดว่า สัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนใหม่เป็น ไดเร็คเซลล์ 80% ค้าปลีกและคีออสประมาณ 20% จากยอดขายรวมปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท
ปัจจุบันทัพเพอร์แวร์ที่จำหน่ายในไทย นำเข้ามาจากต่างประเทศจากโรงงานที่กระจายในหลายประเทศแล้วแต่ประเภทของผลิตภัณฑ์เช่น เกาหลี เบลเยี่ยม มาเลเซีย ฝรั่งเศส อเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเคยได้รับสิทธิ์ผลิตเหมือนกันแต่ได้เลิกไปแล้วเพราะมีปัญหาบางประการ
ทั้งนี้สินค้าที่จำหน่ายบริษัทฯได้จัดกลุ่มใหม่เหลือประมาณ 10 กว่ากลุ่มจากเดิมที่แบ่งกระจายมากกว่า 70-80 กลุ่ม โดยจะมีสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ เช่น ชุดเครื่องครัว ชุดตู้เย็น ชุดเสิร์ฟ ชุดถนอมอาหาร เป็นต้น โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มชุดถนอมอาหารและชุดไมโครเวฟ เป็นหลัก โดยกลุ่มเป้าหมายของทัพเพอร์แวร์จะเจาะกลุ่มระดับเอถึงบี เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง
|
|
|
|
|