ธปท.เผยธุรกิจภาคอสังหาฯ เดือนธ.ค.ชะลอลง โดยการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศลดลง 49 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมปี 2548 ชะลอลงเช่นกัน เหตุกำลังซื่อผู้บริโภคถดถอย และรอดูทิศทางดอกเบี้ยจึงชะลอการซื้อออกไป
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ในรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคมระบุว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเดือนธันวาคม 2548 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยสังเกตได้จากเครื่องชี้วัดหลายรายการ เช่น มูลค่าการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศที่มีจำนวน 62,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนที่อยู่ในระดับ 51,021 ล้านบาท แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง
"เม็ดเงินที่ซื้อขายที่ดินในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนจำนวน 11,024 ล้านบาทก็จริง แต่หากเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจะพบว่าลดลงถึง 49 % ส่วนพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั่วประเทศมีจำนวน 1,553 พัน ตร.ม. ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่อยู่ในระดับ 1,853 พัน ตร.ม. หรือลดลงถึง 20.6 % เมื่อเทียบกับปีก่อน "
ส่วนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีจำนวน 6,782 หน่วย ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่มีจำนวน 7,117 หน่วย หรือลดลง 11.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นการลดลงเฉพาะบ้านจัดสรรเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีรายการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ลดลง 1.7 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายการซื่อขายที่ดินทั้งประเทศในเดือนธันวาคมมีจำนวน 80,093 รายการ ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่อยู่ในระดับ 73,301 รายการ ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายปูนซิเมนต์ลดลงถึง 8.2 %
ทั้งนี้ การที่ปริมาณเครื่องชี้วัดที่สำคัญของเดือนธันวาคมโดยรวมลดลงนั้น มีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน และการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เช่น แรงกดดันที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2548 นั้น ได้ชะลอตัวลงตามกำลังซื่อของผู้บริโภคที่ลดลง ขณะที่บางส่วนชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปเนื่องจากรอดูทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ส่วนด้านผู้ประกอบการนั้นได้มีการปรับตัวโดยชะลอโครงการลงทุนออกไป และหันไปพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีขนาดเล็กลง และมีราคาต่ำลงมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค
สำหรับด้านราคาที่อยู่อาศัยในปี 2548 นั้น ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินได้ขยายตัว 8.0 % เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่อยู่ในระดับ 5.4 % ดัชนีราคาทาวเฮ้าส์พร้อมที่ดินขยายตัว 6.0 % เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่อยู่ในระดับ 3.5 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามราคาค่าขนส่งและวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่ปรับตัวแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อน
รายงานยังระบุด้วยว่า ยอดคงค้างสินเชื่อของผู้ประกอบการภาค อสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่ออสังหาริมทรัพย์ ณ สิ้นปี 2548 ได้ขยายตัวจากปีก่อน 8.3 % และ 14.6 % ตามลำดับ ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการควบรวมกิจการและการยกระดับของบริษัทเงินทุนและเครดิตฟองซิเอร์ขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ และธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยรวม 3 แห่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ประกอบด้วยธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
|