|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
เอเวอร์แลนด์คาดออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ภายในเดือนเม.ย.นี้ เตรียมตั้งกรรมการชุดใหม่พิจารณาจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น เล็งศึกษาเข้าซื้อกิจการที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้เพราะต้นทุนต่ำ ขณะที่ราคาหุ้นหลังจากกลับมาซื้อขายปกติพุ่งแล้ว 26.87%
นายสวิจักร์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)หรือ EVER กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากศาลล้มละลายกลางให้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ภายหลังจากที่บริษัทสามารปรับโครงสร้างและได้มีการจ่ายคืนหนี้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟู ซึ่งปัจจุบันเจ้าพนักงานพิทักษ์อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟู้กิจการได้ในช่วงเดือนเมษายน
ทั้งนี้ภายหลังจากออกจากแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อสรรหากรรมการบริษัทชุดใหม่ประมาณ 5-9 คน โดยกรรมการบริษัทชุดใหม่จะมีการพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลประมาณ 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 171 ล้านบาทหรือ 0.41 ต่อหุ้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการพิจารณาโครงการต่างๆที่เตรียมจะลงทุนโดยหลังจากนั้นจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป
สำหรับแผนงานด้านการลงทุน บริษัทมีแผนที่จะซื้อโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเหตุผลที่บริษัทสนใจจะเข้าลงทุนในบริษัทที่อยู่ระหว่างการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากบริษัทในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการลดหนี้(แฮร์คัท)จากเจ้าหนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้บริษัทได้ต้นทุนในการทำธุรกิจทีค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนเพื่อทำโครงการคอนโดมิเนียมกลางเมือง ซึ่งอาจจะเป็นการลงทุนด้วยการสร้างโครงการใหม่หรือการลงทุนซื้อกิจการ ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้มาพัฒนาต่อ โดยคาดว่าในเรื่องดังกล่าวจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีนี้
ในส่วนของรายได้ของบริษัทในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการที่ปิดแล้ว 3 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการมายวิลล่า บางนา ในส่วนอาคารสำนักงาน มูลค่า 436 ล้านบาท ที่อยู่อาศัย ตึก B มูลค่า 60 ล้านบาท ตึก C มูลค่า 111 ล้านบาท โครงการมายโฮม ประชาชื่น มูลค่า 90 ล้านบาท โครงการมายโฮม เทพารักษ์ มูลค่า 461 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการได้แก่โครงการบ้านเดี่ยวสุวินทวงศ์ เฟสแรกมูลค่า 805 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวมายโฮม เชียงใหม่ เฟสแรกมูลค่า 500 ล้านบาท
ด้านความเคลื่อนของราคหุ้นล่าสุด( 2 มี.ค.) ปิดที่ 4.06 บาทลดลง 0.42 บาทหรือ 9.38% มูลค่าการซื้อขาย 10.59 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับเมื่อวันที่ 19 ม.ค.49ซึ่งเป็นวันแรกที่กลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติราคาปิดที่ 3.20 บาท โดยราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 0.86 บาท หรือ 26.87%
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด แนะนำ ซื้อโดยให้ราคาเป้าหมายหุ้น EVER ที่ 4.56 บาท โดยระบุว่าจุดเด่นของบริษัทคือ ได้รับต้นทุนที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่ำ คือมีสิทธิ์ซื้อคืนจาก บสท.ได้ในราคา 70% ของราคาปกติ ตามเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ อัตรากำไรขั้นต้นจึงสูงที่ 35-38% ราคาขายบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับราคาปานกลางซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในขณะนี้ อีกทั้งคาดการณ์ผลกำไรปกติปี 2548 และ 2549 จะออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2549 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของกำไรปกติอยู่ในระดับสูงเป็น 69% นอกจากนี้มีขาดทุนสะสมที่สามารถประหยัดภาษีได้เต็มที่ในปี 2549 นี้ ราคาเป้าหมายปี2549 ใช้ P/E ปี 2549 ที่เพียง 6.0 เท่า ราคาเป้าหมายยังมีส่วนเพิ่ม 12%
|
|
 |
|
|