“เวคกี้” รุกตลาดผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างหนัก หลังพบพฤติกรรมผู้บริโภคเพิ่มความถี่ในการดื่ม พลิกรูปแบบมิกเซอร์กับแอลกอฮอล์ ตลาดโตพรวด 20% อัดฉีด 50 ล้านบาท เดินหน้าระเบิดแคมเปญ “เวคกี้:เพื่อน คนกลับดึก”จัดกิจกรรม”ทดสอบก่อนกลับ ขับสบายใจ ห่วงใย”ทั่วประเทศ หวังขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด สิ้นปีแชร์ตีตื้นแฮงค์เป็น 40-45%

นางสาวจันทร์สิริ ชูสัตยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท ที.ซี.ยูเนี่ยน โกลบอล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างเวคกี้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างมูลค่า 700-800 ล้านบาทในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15-20% เท่ากับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ตลาดขยายตัว ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเพิ่มความถี่ในการดื่มผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้าง โดยหันมาดื่มในลักษณะมิกเซอร์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากยิ่งขึ้น จากปกติพฤติกรรมของผู้บริโภคจะดื่มในช่วงก่อนดื่มแอลกอฮอล์หรือหลังดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น

สำหรับปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เดินหน้าเน้นทำบีโลว์เดอะไลน์ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 70 % และอะโบฟเดอะไลน์ 30% ทั้งนี้เป็นเพราะการทำบีโลว์เดอะไลน์ ด้วยการจัดกิจกรรมทดสอบผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้าง สามารถเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากกว่า ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “เวคกี้:เพื่อน คนกลับดึก” จัดกิจกรรมทดสอบก่อนกลับ ขับสบายใจ ห่วงใยจาก เวคกี้ ตามหัวเมืองหลักทั่วประเทศ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น ทั้งนี้เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดให้เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่กรุงเทพฯจะเน้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ให้ครอบคลุม 10% จากสถานบันเทิงทั้งหมด โดยกิจกรรมดังกล่าวจะทำทั้งปีเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม นี้เป็นต้นไป ซึ่งปีนี้ทั้งปีคาดว่าจะมีฐานลูกค้าเข้าทดสอบเพิ่มขึ้น 1,000 ราย จากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีฐานลูกค้า 2.5 ล้านคน นอกจากนี้บริษัทฯได้เตรียมเพิ่มรถโมบาย “คาราวาน ไนท์” จากปัจจุบันมีทั้งหมด10 คัน ซึ่งโดยมากจะเน้นจัดกิจกรรมในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ปีนี้จะขยายไปสู่ตลาดต่างจังหวัดเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่เวคกี้ลงสู่ตลาด เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค ขณะที่ช่องทางจำหน่ายยังเน้นร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก 70% และร้านขายยา 30 % อีกทั้งยังได้เจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน

“ปีนี้คาดว่าจะมีคู่แข่งรายใหม่ลงสู่ตลาด แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้เข้ามาช่วยสร้างตลาดให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น และแม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น แต่เชื่อมั่นว่าจุดแข็งของผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างของเวคกี้ อย่าง ชนิดแค็ปซูล ถือว่ามีประสิทธิภาพกว่าเมื่อเทียบกับชนิดน้ำ และสามารถพกพาได้สะดวก ขณะที่ชนิดน้ำเวคกี้คงจะต้องใช้เวลา เนื่องจากเข้ามาทำตลาดหลังคู่แข่ง”

สำหรับเวคกี้ปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม 10-15% จากปัจจุบันทั้งชนิดเม็ดและน้ำรวมกันมีส่วนแบ่ง 30% จากมูลค่าตลาด 700-800 ล้านบาท โดยอัตราการเติบชนิดน้ำมีแนวโน้มที่ดีมากกว่าชนิดเม็ด แต่สัดส่วนรายได้ในขณะนี้อยู่ระหว่าง 50:50 ขณะที่ยอดขายของเวคกี้ตั้งเป้าเติบโตเท่ากับตลาดคือ 15-20%