Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 มีนาคม 2549
"มหพันธ์"ส่งบ้านสำเร็จรูปเบียดกคช.หวังต่อยอดผลิตภัณฑ์เล็งเอ็กซ์พอร์ตต่างประเทศ             
 


   
www resources

โฮมเพจ โอลิมปิคกระเบื้องไทย

   
search resources

มหพันธ์กรุ๊ป
Real Estate
Tools and Equipment




"กลุ่มมหพันธ์"ต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าของบริษัท เตรียมดัน"บ้านสำเร็จรูปน้ำหนักเบา"ออกสู่ตลาดจริงต้นปี 2550 หากผลทดสอบจริงๆสำเร็จ ขณะที่การเลือกใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศใกล้ได้ข้อสรุป ทุ่ม1,200 ล้านบาทขยายกำลังการผลิต หลังปีที่ผ่านมาดีมานด์แซงหน้ากำลังการผลิต ตั้งเป้ายอดขาย 4,800 ล้านบาท ส่ง3ผลิตภัณฑ์ใหม่หวังดันยอดขายเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

นายองอาจ เตชะมหพันธ์ กรรมการบริหาร กลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ตราเฌอร่า และกระเบื้องหลังคาตราห้าห่วง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการผลิตบ้านโครงสร้างเบาสำเร็จรูปเพื่อขายว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีจาก 4 ประเทศเข้ามาใช้ใน การผลิตบ้านสำเร็จรูปดังกล่าว อาทิเช่น เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น , สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีจากประเทศเหล่านี้ จะต้องมีการผสมผสานให้เข้ากับประเทศไทย เนื่องจากความต่างของสภาพแวดล้อมของไทยจะไม่เหมือนกับประเทศเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่ม มหพันธ์จะมีการทดสอบบ้านตัวอย่างและให้คนอยู่อาศัยจริงใน 4 ภาคประมาณ 10-20 ยูนิตภายในปีนี้ เพื่อทดสอบความคงทนของตัวบ้าน เนื่องจากแต่ละภาคจะมีความแตกต่างในเรื่องของสภาวะแวดล้อม อาทิ บ้านอยู่ใกล้ทะเลจะรับกับการกัดกร่อนของทะเลได้แค่ไหน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะผลิตออกสู่ตลาดในปี 2550 ในลักษณะบ้านเดี่ยวชั้นเดียวและ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 60-100 ตารางเมตร ราคาขายตั้งแต่ 3-6 แสนบาทต่อหลังและสามารถต่อเติมได้ ซึ่งในแต่ละปี ตลาดจะมีการใช้สินค้าของกลุ่มมหพันธ์ประมาณ 1.5 แสนครอบครัว ทั้งที่เป็นบ้านหลังใหม่และบ้านที่ปรับปรุงใหม่

นอกจากนี้ บ้านสำเร็จรูปที่ทางกลุ่มจะผลักดันออกมา จะรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าตลาดระดับกลางและล่างในต่างจังหวัด เนื่องจากคนกลุ่มระดับนี้ ไม่นิยมซื้อบ้านในโครงการจัดสรร แต่จะเลือกสร้างบ้านหรือปลูกสร้างบ้านเองแทน นอกจากนี้ ทางกลุ่มมหพันธ์ก็จะมีแผนผลิตเพื่อส่งออกไปต่างประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชีย ,เอเชียใต้ ,แอฟริกา ซึ่งในแต่ละประเทศความต้องการบ้านน้ำหนักเบายังมีช่องทางเข้าไปทำตลาดได้มาก และคาดว่าสินค้าดังกล่าวจะสามารถเป็นสินค้าหลักอีกตัวหนึ่งของบริษัทในอนาคต

"ปัจจุบันคนชอบอยู่โครงการจัดสรร แต่ในต่างจังหวัดไม่มีบ้านลักษณะนี้ เราจึงออกสินค้ามา ซึ่งเป็นโอกาสของเราในการเจาะตลาดใหม่ ๆ ขณะที่คู่แข่งยังไม่มี อีกทั้งของเราเป็นโครงสร้างสำเร็จสามารถนำมาประกอบและอยู่อาศัยได้เลย ซึ่งแตกต่างจากบ้านเอื้ออาทรค่อนข้างมาก เพราะต้องใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า เรารู้ดี เคยทำแบบบ้านเอื้ออาทรให้กับการเคหะแห่งชาติมาแล้ว และครั้งนั้นก็เป็นการทดสอบตลาดของบ้านสำเร็จรูปของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม รูปแบบของบ้านจะเป็นตัวหลักในการกำหนดดีไซน์ของวัสดุหรือกระเบื้องที่จะใช้ในการประกอบ ซึ่งโดยรวมแล้วจะส่งผลดีให้ยอดขายของผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเติบโตจากการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปในระยะข้างหน้า "นายองอาจกล่าว

นายองอาจ กล่าวถึงภาพรวมของบริษัทในปี 2549 ว่า ได้ตั้งเป้ายอดขายสินค้าทั้งกลุ่มประมาณ 4,800 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มียอดขายประมาณ 3,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากในปีนี้ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มกระเบื้องมุงหลังคา 3 ชนิด คือ กระเบื้องไตรลอน , กระเบื้องแกรนาด้า และกระเบื้องชิงเกิ้ล ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์มีจดขายสินค้าและสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ครอบคลุมทุกรูปแบบความต้องการและการใช้งานของผู้บริโภคโดยกระเบื้องไตรลอน ได้เริ่มบุกเบิกตลาดมาแล้วปลายปี 2548 ราคาขายจะสูงกว่ากระเบื้องธรรมดาประมาณ 10-20% ขึ้นอยู่กับลักษณะของสีที่อยู่ในเนื้อกระเบื้อง เป็นต้น

สำหรับในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย จะจำหน่ายผ่านทางตัวแทน กว่า 700 ราย และตัวแทนรายย่อยอีกกว่า 2,300 รายทั่วประเทศ โดยล่าสุดทางบริษัทได้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ในด้านการให้บริการแก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ได้สามารถสั่งซื้อสินค้าระบบออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในด้านช่องทางการสื่อสาร ได้ทุ่มงบในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่วงเงิน 80 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์ในการทำตลาดและประชาสัมพันธ์ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 3ชนิด เติบโต 50% หรือประมาณ 200 ล้านบาท และภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะต้องขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10%

ส่วนมูลค่าตลาดรวมของกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์(กระเบื้องสี)ในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 5% จากมุลค่าตลาดรวม 8,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ผู้บริโภคให้ความนิยมในกระเบื้องสีมากกว่ากระเบื้องขาวหรือกระเบื้องธรรมดา ส่งผลให้สัดส่วนกระเบื้องสีมีส่วนแบ่งตลาดในมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 60% และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันกระเบื้องห้าห่วงมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% และกระเบื้องคอนกรีต 20% ขณะที่ไม้ฝาเฌอร่ามีส่วนแบ่งตลาด 50%

นายองอาจกล่าวว่าในภาวะที่ราคาต้นทุนจากค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ทำให้ทางกลุ่มจำเป็นต้องปรับราคาทางอ้อม โดยการดึงส่วนลดสินค้าที่จะให้กับตัวแทนจำหน่ายลง 5-10% อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้มีการลงทุนขยายกำลังการผลิตอีก 1,200 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณความต้องการมีสุงทำให้สินค้าของกลุ่มมีไม่เพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยขยายกำลังการผลิตภัณฑ์ของสินค้าหลักๆ คือ หลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์อีก 7 หมื่นตันต่อปี ไม้ฝาเฌอร่าอีก 7 หมื่นตันต่อปี สินค้าตกแต่งที่ใช้คู่กับไม้ฝาเฌอร่า 7 หมื่นตัน และขยายโรงงานผลิตกระเบื้องคอนกรีตที่ลพบุรีอีก 2 แสนตันต่อปี ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์หลังคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 5%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us