|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
"อากู๋"สวมบทโหดปลดพนักงานแกรมมี่ ลูกหม้อเก่าไม่ต่ำกว่า 60 คน ในสิ้นเดือนกุมภาฯ อ้างรับภาระต้นทุนไม่ไหว ฐานเงินเดือนแพงลิ่ว แง้มประตูให้กลับมารับจ็อบเป็นชิ้นๆ พร้อมประกาศรับเด็กหน้าใหม่เข้ามาทำงานประจำ GRAMMYเผยผลประกอบการสิ้นปี 48 กำไรสุทธิแค่ 496 ล้านบาท ลดลงกว่า 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อ้างยอดขายสินค้าเพลงทรุด ขณะที่ GMMM กำไรวูบ สิ้นปี 48 กำไรสุทธิ 229 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 323 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากพนักงานบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (GRAMMY) เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้ปลดพนักงานประจำ ซึ่งเป็นพนักงานเก่าของบริษัท ซึ่งทำงานมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีออกจำนวน 60 คน ซึ่งไม่แน่ว่าหลังจากนี้จะมีการปลดพนักงานเก่าเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากกิจการของแกรมมี่ผลประกอบการมีแนวโน้มกำไรสุทธิน้อยลง
นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงยังให้เหตุผลกับพนักงานที่โดนปลดในครั้งนี้ว่า เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าจ้างที่อยู่ในระดับสูงได้ โดยกลุ่มพนักงานที่โดนปลดประกอบด้วยช่างภาพ ช่างกล้อง ช่างฝ่ายตัดต่อ ช่างคอนโทรล และช่างอัดเสียง
"ที่ผ่านมา ผู้บริหารแกรมมี่พยามปิดข่าวเรื่องนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเกรงเสียภาพลักษณ์ของแกรมมี่"
อย่างไรก็ตาม แกรมมียังคงประกาศให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างให้สามารถกลับมาทำงานใหม่ได้อีกครั้ง แต่การจ้างงานจะเป็นลักษณะของการรับงานไปทำเป็นแต่ละกรณีไป ขณะเดียวกันในส่วนตำแหน่งงานที่ว่างลง แกรมมี่ตัดสินใจรับพนักงานใหม่ เข้ามาทำแทน เนื่องจากต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับพนักงานเก่าที่มีอายุงานสูง
**แกรมมี่แจงกำไรทุดฮวบ
**ยอดขายสินค้าเพลงลด
รายงานข่าวจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ( GRAMMY ) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ปรากฏกำไรสุทธิเป็นจำนวน 203.51 ล้านบาท กำไรสุทธิดังกล่าวลดลงเป็นจำนวน 496.69 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 700.20 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 71%
ผลการดำเนินงานที่ลดลง เนื่องจากบริษัทมีรายได้ลดลงจาก 6,671.45 ล้านบาท ในปี 2547 เป็น 6,313.28 ล้านบาท ในปี 2548 หรือคิดเป็นอัตรา 5% โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจเพลง ถึงแม้ธุรกิจDigital จะมีการขยายตัวของรายได้ ในขณะที่ รายได้จากธุรกิจสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ลดลงสุทธิจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์ และธุรกิจกิจกรรมทางการตลาด
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพลงลดลง 16% อันเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้เกิดการชะลอตัวของการบริโภคอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนอัลบั้มของเพลงที่ออกจำหน่ายในปีปัจจุบันจะใกล้เคียงกับจำนวนอัลบั้มของเพลงที่ออกจำหน่ายในปีก่อนก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงลักษณะการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจากซื้อสินค้าเพลงในรูป เทป ซีดี วีซีดี เป็นการซื้อสินค้า Digital เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจ Digital เพิ่มขึ้นในอัตรา 23% ซึ่งสามารถชดเชยการลดลงของรายได้ของธุรกิจเพลงในบางส่วน
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจนี้เป็นผลจากการพัฒนาช่องทางและวิธีการจำหน่าย ซึ่งเป็นผลให้บริษัทสามารถเพิ่มรายได้และลดการพึ่งพารายได้จากผู้ประกอบการ Mobile Operator ได้บางส่วน
อีกทั้ง บริษัทมีการขยายธุรกิจทางด้าน คาราโอเกะ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจเพลงในอนาคต
รายงานข่าวกล่าวว่า ภายหลังเหตุการณ์สึนามิในช่วงต้นปี 2548 รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตในครึ่งปีหลังของปี 2548 ปรับตัวขึ้นจนมีรายได้ใกล้เคียงกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้รายได้สะสมของปี 2548 จะลดลงจากปี 2547 อันเป็นผลจากการไม่มีการจัดละครเวทีในปี 2548 เนื่องจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ภายในกลุ่ม จีเอ็มเอ็ม มีเดีย4. รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ลดลง 12% เนื่องจากในปี 2549 มีจำนวนภาพยนตร์ออกฉายน้อยกว่าปี 2549 อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถเพิ่มรายได้ของธุรกิจภาพยนตร์โดยการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในต่างประเทศ
ส่วนรายได้ธุรกิจสื่อลดลงจากการลดลงของรายได้วิทยุ 10% ตามสภาวะอุตสาหกรรมที่ลดลง และการลดลงของคลื่นที่กลุ่มบริษัทบริหารจาก 6 คลื่น เป็น 5 คลื่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
สำหรับกำไรสุทธิจากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น 35% จากการออกนิตยสารใหม่ 2 เล่ม คือ Maxim และ In Magazine รวมถึงการขยายธุรกิจกิจกรรมทางการตลาดผ่านการลงทุนในกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) ในอัตรา 50% ในช่วงปลายเดือน มิถุนายน2548
รายงานข่าวกล่าวว่า บริษัทมีผลขาดทุนจากการสำรองเผื่อการด้อยค่าในเงินลงทุนในบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (UBC) จำนวน 32.2 ล้านบาท อันเนื่องมาจาก UBC ขอเพิกถอนหุ้นสามัญของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในต่างประเทศจำนวน 67.8 ล้านบาท อันเนื่องมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสาเหตุหลัก
**GMMMกำไรวูบเหลือ229ล้าน
**ทุ่มทุนสร้างโอเพ่นเรดิโอ100ล้าน
ขณะที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) (GMMM) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2548 มีกำไรสุทธิ 229.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.17 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 323.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.68 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีมติการลงทุนในบริษัทโอเพ่น เรดิโอ จำกัด ดำเนินธุรกิจกิจการวิทยุประเภทสถานีข่าว ทุนจด ทะเบียน 1,000,000 หุ้น ราคาตามมูลค่าหุ้นละ 100 บาทเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท
|
|
 |
|
|