Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กุมภาพันธ์ 2549
ยูเอฟพีปั้นโปรเจกต์กุ้งครบวงจรดึง13กลุ่มบูมส่งออกขยาย20%             
 


   
search resources

ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์, บจก.
Frozen food




ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ หวังเปลี่ยนภาพการซื้อขายกุ้งในตลาดส่งออก ล่าสุดปั้นโปรเจกต์ "กุ้งครบวงจร" จับมือร่วมกับผู้ประกอบการกุ้งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 13 กลุ่ม เร่งปั้นคุณภาพตลาดกุ้งไทยเทียบชั้นสากล เผยการเมืองเดือดไม่กระทบต่อยูเอฟพีและพรานทะเลที่เป็นธุรกิจอาหาร

นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ จำกัด (ยูเอฟพี) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้งโครงการ "กุ้งครบวงจร"(Integrated Operation of Shrimp Business)เนื่องจากต้องการเพิ่มศักยภาพการส่งออกกุ้งของไทย ประกอบกับต้องการเปลี่ยนวิธีการซื้อขายกุ้งในตลาดส่งออกแบบระยะยาว ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาตรงที่อเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยนิยมเลือกซื้อกุ้งในช่วงที่กุ้งมีราคาถูกและอ่อนตัวลงในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี แต่จากการตั้งโครงการกุ้งครบวงจรแล้วจะทำให้มีการซื้อขายกุ้งแบบล่วงหน้าและเป็นระบบมากขึ้น

"เราคาดว่าจากโครงการนี้ จะทำให้ส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้น10-20% จากมูลค่าส่งออกกุ้งเกือบ 1 แสนล้านบาทต่อปี โดยตลาดที่ไทยส่งออกมากสุด ได้แก่ อเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น"

นอกจากนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันในตลาดโลก ทั้งนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ,เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) หรือการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีทวิภาคี (Free Trade Area หรือ FTA) ซึ่งไทยมีการเจรจากับหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย ออสเตรเลีย ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว และประเทศที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์

ปัจจุบันกลุ่มยูเอฟพีมียอดส่งออกปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยคิดเป็นวัตถุดิบกุ้งเพื่อการผลิตและส่งออกปีละประมาณ 20,000 - 40,000 ตัน หรือคิดเป็น 8-12% ของกุ้งที่ผลิตได้ในไทย ส่วนแนวโน้มของตลาดอุตสาหกรรมการส่งออกไทยยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงอยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง และต้องเข้มงวดกระบวนการผลิตที่ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้เป็นจุดแข็งของการผลิตกุ้งไทย

สำหรับโครงการกุ้งครบวงจรเป็นโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกันของกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการส่งออกกุ้งของไทย อาทิ บริษัท โกล์ด คอยน์ สเปเชียลิตี้ส์ ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารกุ้งรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกบริษัท ซาย อาคควา สยาม จำกัด บริษัทผู้ผลิตลูกกุ้งชั้นนำของโลกที่เชี่ยวชาญด้านการคัดเลือกและปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งและกลุ่มเกษตรกร

โดยแต่ละกลุ่มจะดำเนินการภายใต้กรอบและข้อกำหนดที่คณะกรรมการของโครงการได้กำหนดไว้ โดยอาศัยความร่วมมือ การดูแล และความรับผิดชอบจากผู้ประกอบการในแต่ละกระบวนการทั้งผู้ผลิตอาหารกุ้ง ผู้ผลิตลูกกุ้ง ผู้เลี้ยงกุ้ง โรงงานผลิตและส่งออก รวมทั้งภาครัฐที่ให้การสนับสนุน ภายใต้แนวคิด "Supply Chain" ทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพในแต่ละกระบวนการได้อย่างชัดเจนและโปร่งใสในทุกขั้นตอน (Full Traceability) และให้ผลประโยชน์ที่เป็นธรรมกับสมาชิกทุกกลุ่ม

ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมประมง ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกกุ้งไทยในปี 2549 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 7.7% หรือเพิ่มจาก 418,000 ตัน เป็น 450,000 ตัน หรือ เพิ่มในด้านมูลค่าถึง 20% จาก 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

**การเมืองไม่กระทบพรานทะเล**

นายอนุรัตน์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันไม่ได้ส่งผลต่อธุรกิจของบริษัทฯมากนัก เนื่องจากธุรกิจยูเอฟพีเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจที่ลงทุนในประเทศอาจเกิดความไม่มั่นใจในระยะหนึ่ง และไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมือง หรือมองว่ามีผลกระทบในวงกว้างในแง่จิตวิทยาของผู้บริโภค ในส่วนของพรานทะเลที่เน้นทำตลาดในประเทศก็มองว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่คนต้องทานทุกวันๆละ 3 มื้อ โดยแผนการดำเนินงานของพารนทะเลยังคงเดินหน้าเหมือนเดิมและมีการติดตามสถานการณืการเมืองอย่างใกล้ชิดในเรื่องต่างๆ เช่น การเดินขบวนกระทบต่อจุดขายพรานทะเลหรือไม่ เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us