ศรีสุขเคยเปิดใจตั้งแต่ครั้งรับตำแหน่งอธิบดีกรมการบินพาณิชย์ครั้งแรกว่า
มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เหมือนกับคุณพ่อ
ดร.สิริลักขณ์ จันทรางศุ
และตระกูลจันทรางศุ ก็ดูเหมือนจะมีศรีสุขเท่านั้นที่สานต่อฝันของตระกูลได้
ทายาทของดร.สิริลักขณ์ นั้นนอกจากมีศรีสุขเป็นพี่ชายคนโต ยังมีมุกดา การุณ
อุ่นจิตต์ เป็นน้องที่คลานตามกันมา
ดูเหมือนว่าน้องๆ ของศรีสุขนั้นคงไม่มีใครเดินตามเส้นทางของบิดาได้
ดร.การุณ จันทรางศุ เคยเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และได้ลาออกไปรับตำแหน่งผู้บริหารในบริษัท
ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอส ผู้ทำโครงการรถไฟฟ้าธนายง
เป็นการก้าวสู่ภาคเอกชน โดยเมินการรับราชการประจำ
ขณะที่บุตรสาวอีก 2 คนนั้นก็มีหนทางดำเนินชีวิตของตนเอง
เมื่อเป็นอธิบดีกรมใหญ่ในกระทรวงได้ ก็คงไม่ยากที่จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวง
เพียงแต่ต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสม
ด้วยวัยเพียง 44 ปี เมื่อขึ้นเป็นซี 9 ศรีสุขยังต้องใช้ชีวิตในราชการอีก
16 ปีกว่าจะเกษียณ
ถ้ารีบแผ้วถางทางให้สู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงในช่วงเวลาแม้เพียงครึ่งเดียว
เวลาอีก 8 ปีก็อาจต้องไปนั่งตบยุงทำงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพราะหนทางที่กระทรวงคมนาคมคงตันไปเสียแล้ว
เหมือนเมื่อครั้งที่กระทรวงคมนาคมไม่มีตำแหน่งรองรับ และต้องย้ายศรีภูมิ
ศุขเนตร อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมไปรับงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่การรับราชการในตำแหน่งสูงที่ต้องอาศัยสายสัมพันธ์กับนักการเมือง
เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีครั้งใด ก็ต้องมีการโยกย้ายข้าราชการในกรมกองเป็นธรรมเนียม
หากไม่เป็นที่ต้องใจของนักการเมืองก็มีสิทธิ์ถูกแขวนได้
ศรีสุขเองดูเหมือนว่าจะหนักในการรับงานด้านอากาศเสียส่วนใหญ่ หากรวมเวลาที่นั่งทำงานในกรมการบินพาณิชย์ก็ประมาณ
10 ปี ยังไม่เคยลองงานในตำแหน่งใหญ่กับหน่วยงานอื่นมาก่อน
ดูเหมือนจะคุ้นเคยแต่งานด้านการบิน เพราะแม้แต่ภรรยา จารุวรรณ จันทรางศุ
ยังทำงานอยู่ฝ่ายการเงินในบริษัท การบินไทย จำกัด
การทำงานในช่วงนี้ก็คือ ปูฐานการทำงานให้มั่นคงหนักแน่นไว้ก่อน โดยเฉพาะงานในสาขาอื่น
ที่สำคัญคือศรีสุขก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงในช่วงระยะเวลาอันสั้น
ไม่ว่าตำแหน่งอธิบดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้ตรวจราชการชั้น 1 ศรีสุขล้วนเคยรับมาแล้วทั้งสิ้น
ถึงปี 2540 เมื่อศรีสุขได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงด้วยวัย 53 ปีรับราชการในกรมสร้างผลงานต่ออีกประมาณ
4 ปี ก็ถึงวัยที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมได้อย่างเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
หากไม่มีม้ามืดมาชิงดำไปเสียก่อน
ด้วยความสามารถส่วนตัวของศรีสุขที่เข้าสู่ตำแหน่งสุงสุดของกระทรวงคมนาคม
โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้เป็นบิดาแต่อย่างใด