|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2549
|
|
ฉบับนี้อยากพาคุณผู้อ่านมาชมแผ่นโฆษณาสินค้าเก่าๆ ของอังกฤษในยุควิกตอเรีย กันเสียหน่อย ว่ากันว่าในยุคที่พระนางเจ้าวิกตอเรียเป็นประมุขของสหราชอาณาจักร (ค.ศ.1839-1901) นั้น ประเทศอังกฤษเกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ มากมาย เรียกว่าเป็นยุคทองของเขาเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วความรุ่งเรืองของอังกฤษในยุคนั้น ก็ไม่ใช่เพราะว่าพระนางเจ้าวิกตอเรียมีความสนพระทัยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมากกว่ากษัตริย์องค์อื่นๆ แต่อย่างใด เนื่องจากพระองค์เองก็เอาแต่ทรงโศกเศร้าเสียพระทัยกับการจากไปก่อนเวลาอันควรของพระสวามีสุดที่รัก คือเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งเยอรมนี ทรงไว้ทุกข์ให้กับเจ้าชายและไม่ยอมทรงงานเป็นเวลาสิบๆ ปี ดังนั้นการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศอังกฤษในยุคนั้น น่าจะมาจากกระแสคิดใหม่ทำใหม่ที่เกิดแก่ชาวอังกฤษเอง การนำหลักวิทยาศาสตร์มาแย้งความเชื่องมงายทางศาสนา ซึ่งก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ มากกว่า
เมื่อสินค้าอุปโภคบริโภคหลากชนิดถูกพัฒนาออกมา การแข่งขันจึงเข้มข้นขึ้นจนผู้ผลิตต้องนำโฆษณาเข้ามาช่วยตรึงความสนใจของลูกค้า และเพราะในสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟิก งานโฆษณาแต่ละชิ้นจึงต้องอาศัยฝีมือของศิลปินล้วนๆ แผ่นโฆษณาเก่าๆ จึงกลายเป็นของโบราณอันทรงคุณค่า ที่มีคนซื้อหาสะสมกันอยู่มากมายในปัจจุบัน งานประมูลของเก่าในอังกฤษแต่ละครั้ง จะเห็นผู้คนนำแผ่นพิมพ์โฆษณาทั้งหลายออกมาประมูลกันประปราย สนนราคาก็มีตั้งแต่ 5 ปอนด์บ้าง 10 ปอนด์บ้าง แล้วแต่ความสมบูรณ์ของภาพบวกกับความหายาก (ใครสนใจลองไปเปิดดูได้ที่เว็บไซต์ของอีเบย์) แต่บางภาพนี่ขึ้นหลักร้อยหรือหลักพันก็มี
ภาพที่คุณผู้อ่านกำลังชมอยู่นี้ มาจาก หนังสือเล่มเล็กๆ ซึ่งทำเป็นโปสต์การ์ดด้วย จัดทำโดยองค์กรการกุศลของอังกฤษชื่อ HAT หรือ History of Advertising Trust (http://www.hatads.org.uk) ซึ่งเก็บรวบรวมภาพพิมพ์ วิดีโอ และสื่อโฆษณาอื่นๆ ของอังกฤษ เกือบ 3 ล้านรายการ เอาไว้ให้ประชาชนและ ผู้ที่สนใจได้มาเยี่ยมชมและค้นคว้า รูปโฆษณา เหล่านี้สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอังกฤษเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้อย่างดีเยี่ยม บางรูปบ่งบอกถึงค่านิยมทางสังคมที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ร้อยปี ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เช่น การ นำความรักสวยรักงามของเพศหญิงมาเป็นจุดขายสินค้า ตอกย้ำให้ผู้หญิงเรารู้สึกว่า ตน จะเป็นหญิงที่สมบูรณ์แบบได้ก็ต่อเมื่อตนสามารถรักษาความสวยมัดใจชายไว้ได้ ดูได้จากโฆษณาแถบรัดเอวให้กิ่ว (corset) ยี่ห้อ Harness ซึ่งมาแปลก เพราะเขาโฆษณาว่า การใช้แถบรัดเอวของ Harness จะช่วยแก้ปัญหาปวดหลังได้ด้วย
ส่วนโฆษณาผงซักฟอก ไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ก็จะจับแต่ประเด็นแม่บ้านที่ต้องการทำตัวเป็นศรีภรรยาของสามี และแม่ที่ดีของลูก ซึ่งจะแสดงให้เห็นได้ก็ตรง ที่สามารถซักผ้าได้ขาวสะอาด สีสดใส ทำให้ลูกๆ และสามีใส่เสื้อผ้าออกไปข้างนอกได้อย่างไม่ต้องอายใคร ราวกับว่าไม่มีอะไรในโลก นี้ที่จะทำให้หญิงที่แต่งงานแล้วมีความสุขได้มากเท่ากับการได้ปฏิบัติหน้าที่ทางครอบครัว ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วเท่านั้น ส่วนความสุขส่วนตัวของผู้หญิง ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งในฐานะภรรยาหรือแม่นั้น ไม่ค่อยจะมีใครนำมากล่าวถึง ที่น่าประหลาด ใจก็คือ แม้กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่โฆษณาผงซักฟอกในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเมืองไทยหรือเมืองไหนๆ ก็ยังคงใช้คอนเซ็ปต์ แม่บ้านที่แสนดีนี้กันอยู่ หรือว่าความเคลื่อน ไหวทางสังคมด้านสิทธิสตรีที่ผ่านมานั้นไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้คนสักเท่าไร ไม่ว่าจะในหญิงหรือชายก็ตาม
แต่ทัศนคติเกี่ยวกับเพศหญิงหลายประการก็ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนมาก เช่น การขี่จักรยานของผู้หญิง ซึ่งสำหรับสังคมอังกฤษในยุควิกตอเรียนั้น นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับได้ เพราะต่างก็เห็นว่าไม่เหมาะกับผู้หญิง บ้างก็ว่าผู้หญิงที่อยากขี่จักรยานนั้น จริงๆ แล้วชอบใส่กระโปรงสั้นยั่วกิเลสชายเล่นเท่านั้น บ้างก็กล่าวว่าการขี่จักรยานนั้นนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของสตรีแล้ว ยังจะทำให้จริยธรรมและชื่อเสียงของหญิงสาว เสื่อมเสียไปด้วย ส่วนคุณหมอ 2 ท่านที่ชื่อ Thomas Lothrop และ William Poter ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การขี่จักรยานจะทำให้ผู้หญิงเริ่มไม่รู้จักนอบน้อมถ่อมตน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของหญิงสาวด้วย (อันนี้ก็ไม่ทราบว่าคุณหมอเขาหมายความว่าผู้หญิงจะกล้าแกร่งขึ้นจากการขี่จักรยานจนไม่ง้อผู้ชาย ใครขอแต่งก็จะไม่ยอมแต่งด้วยหรือเปล่า??) ส่วนบางคนก็ถึงกับกล่าวว่าผู้หญิงชอบขี่จักรยานเพราะจะได้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (masturbation) เอากับเบาะจักรยานน่ะสิ1! (ว่าเข้าไปนั่น) ก็นับว่าโชคดีที่ทัศนะต่ออิสตรีในเรื่องนี้ได้เปลี่ยน ไปแล้วตามกาลเวลา ไม่เช่นนั้นผู้หญิงเราคงอึดอัดใจแย่
เอ..มัวแต่ถกประเด็นทางสังคม เดี๋ยวคุณผู้อ่านจะเครียดแย่ ถ้าอย่างนั้นขอเชิญดูรูปให้เพลิดเพลินกันดีกว่านะคะ
หมายเหตุ : ภาพจากหนังสือ Vintage Advertising from the History of Advertising Trust
ข้อมูลจาก 1www.victorianstation.com
|
|
|
|
|