Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2549
Very Long-Term Stock             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 

 
Charts & Figures

ผลการดำเนินงานบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
รายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)


   
www resources

โฮมเพจ รถไฟฟ้ากรุงเทพ

   
search resources

รถไฟฟ้ากรุงเทพ, บมจ.
Transportation
Stock Exchange




รถไฟฟ้าใต้ดินเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ของประเทศ
แต่ต้องหวังผลระยะยาว

3 กรกฎาคม 2547 เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวกรุงเทพมหานคร เนื่องจากรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย เริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในเส้นทางหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทาง 20 กิโลเมตร ถึงแม้กระแสความตื่นเต้นของคนกรุงเทพฯจะไม่มากเท่าเมื่อครั้งที่รถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดบริการ แต่ก็เป็นไปตามการประเมินของผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ ที่เชื่อว่าผู้บริโภคต้องใช้เวลาปรับตัวระยะหนึ่ง และหลังจากเปิดเดินรถมาแล้วหนึ่งปีครึ่งพบว่า ยอดผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันทำงานเพิ่มขึ้นจาก 151,225 คน ในปี 2547 มาเป็น 179,145 คน ในปีที่แล้ว

จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ยอดรายได้สูงขึ้นจาก 445.88 ล้านบาทในปี 2547 มาเป็น 695.67 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมาและถึงแม้รายได้หลักกว่า 90% จะมาจากการเดินรถ แต่รถไฟฟ้ากรุงเทพก็เริ่มมีรายได้จากส่วนอื่นเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินงานโดยบริษัทย่อยทั้งการให้เช่าพื้นที่โฆษณา การให้เช่าพื้นที่ร้านค้าและการให้เช่าระบบโทรคมนาคม ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนในรูปของส่วนแบ่งรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายและเงินปันผล

ยอดรายได้ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเช่นนี้ ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่คึกคักอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้นปี 2549 เป็นผลจากการเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศ ทำให้บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ ใช้จังหวะนี้เข้าระดม ทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

วัตถุประสงค์ของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เพื่อนำ เงินที่ได้มาใช้ในการซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 5 ขบวน รวมทั้งเครื่องออกเหรียญโดยสารอัตโนมัติ เครื่องออกบัตรโดยสารและประตูอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งชำระหนี้เงินกู้และใช้ส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน

ถึงแม้ผู้บริหารรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BMCL จะไม่ยอมระบุถึงจำนวนเงินที่จะนำไปใช้ในแต่ละรายการ แต่ปัจจุบัน BMCL มีภาระหนี้รวม 13,960 ล้านบาท ต้องเสียดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมา กว่า 700 ล้านบาท หรือประมาณวันละ 2 ล้านบาท การนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้ไปชำระหนี้จึงมีส่วนช่วยให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงได้บ้าง

BMCL เป็นหุ้นที่มีลักษณะพิเศษหลายประการ เพราะนอกจากจุดขายในเรื่องของความภูมิใจที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการขนส่งมวลชนของประเทศ ที่ทั้งผู้บริหาร BMCL และบล.กิมเอ็งในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน พยายามนำมากระตุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้ามาจองซื้อหุ้นแล้ว ยังเป็นการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมมีการขายหุ้นออกมามากที่สุดบริษัทหนึ่ง (ดูรายละเอียดจากตารางรายชื่อผู้ถือหุ้น) จนดูเหมือนว่าการเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้เป็นโอกาสให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมได้ระบายหุ้นบางส่วนเพื่อทำกำไรจากการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

BMCL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการขายหุ้นสามัญให้ประชาชนจำนวน 2,856.23 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,315.81 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 1,540.42 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน (green-shoe option) อีก 300 ล้านหุ้น

ความพิเศษประการที่สองของ BMCL ก็คือ ถึงแม้จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นแต่ผลดำเนินงานยังคงขาดทุน (ดูรายละเอียดจากตารางผลการดำเนินงาน) และผู้บริหาร คาดว่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2551 จึงจะเริ่มมีกำไร

ขณะเดียวกันข้อมูลจากงบการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 ระบุว่า บริษัทมียอดขาดทุนสะสมรวม 2,474.58 ล้านบาท ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้จน กว่าจะล้างยอดขาดทุนสะสมจนหมด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ ในปี 2555 และยอดขาดทุนสะสมที่มีอยู่จำนวนนี้เองทำให้มูลค่าทางบัญชีในปัจจุบันของ BMCL อยู่ที่หุ้นละ 0.75 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท

ด้วยเหตุนี้เอง มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินจึงต้องพยายามชี้ให้นักลงทุนมอง BMCL ในรูปแบบของการลงทุนระยะยาว โดยยกข้อดีของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มสูงขึ้น ในอนาคต โดยที่การแข่งขันในเส้นทางเดียวกันจากผู้ประกอบ การรายอื่นมีน้อยและเมื่อมีการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยาย ก็ยังต้องมาเชื่อมต่อกับเส้นทางเดิม ทำให้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงความเป็นไปได้ของ BMCL ในการ เข้าประมูลดำเนินงานในโครงการส่วนต่อขยาย เพราะมีความได้เปรียบคู่แข่งรายอื่นในเรื่องต้นทุน

เมื่อพิจารณาจากผลดำเนินงานที่ยังขาดทุนและต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผล นักลงทุนที่จะซื้อหุ้น BMCL นอกจากเหตุผลของความภูมิใจ ที่จะได้มีส่วนเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศแล้ว ยังต้องมีความพร้อมที่จะถือหุ้นตัวนี้ ในระยะยาวกว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us