|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2549
|
|
เป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นตัวเลือกแรกในการชำระเงินแทนที่เงินสด ทำให้ Visa วางกลยุทธ์รุกในผลิตภัณฑ์บัตรชำระเงินเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากตลาดบัตรเครดิตที่เริ่มอิ่มตัว
ความสะดวกในการใช้งานและโปรโมชั่นต่างๆ เป็นจุดขายสำคัญของผู้ออกบัตรเครดิตแต่ละรายที่ผลักดันให้ยอดบัตรเครดิตในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งในด้านของจำนวนบัตรและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร ในปีที่ผ่านมาธุรกิจของ Visa ซึ่งเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิตมากที่สุด ในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านใบ เป็น 5.7 ล้านใบ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 23%
อย่างไรก็ตาม Visa พบว่าบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการออกบัตรให้กับผู้ที่มีบัตรอยู่แล้ว เนื่องจากจำนวนผู้ที่มีสิทธิถือบัตรเครดิตในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อย ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้ปัจจุบันผู้ที่มีสิทธิถือบัตรเครดิตแต่ละรายจะมีบัตรเครดิตเฉลี่ยถึง 3 ใบ โดยจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งหมดของไทยในปีที่ผ่านมาจำนวน 4.58 แสนล้านบาท จะเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตร Visa 3.15 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22% คิดเป็นปริมาณใช้จ่ายโดยเฉลี่ยใบละ 55, 100 บาท
"ในปีที่ผ่านมาจะเห็นแคมเปญของผู้ออกบัตรมาเน้นที่การให้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่าการเพิ่มจำนวนบัตร เพราะปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรคือ ดัชนีชี้วัดการเติบโตของธุรกิจที่แท้จริง" สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการ วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยกล่าว
สำหรับในปีนี้ Visa วางเป้าหมายที่จะผลักดันให้ผลิตภัณฑ์บัตรชำระเงินเข้ามาแทนที่การชำระด้วยเงินสดมากขึ้น โดยนอกเหนือจากบัตรเครดิตที่มีอยู่แล้วจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ บัตรเครดิตพรีเมียม จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง บัตรเดบิต จับกลุ่มผู้มีบัญชีเงินฝากในธนาคาร บัตรพรีเพด สำหรับประชาชนทั่วไป และบัตรเครดิต สำหรับองค์กร สำหรับบริษัทและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ ซึ่ง Visa จะมีการทำตลาดบัตรทั้ง 4 ประเภทอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
"คู่แข่งของ Visa คือเงินสด เป้าหมายของเราคือทำให้บัตรชำระเงิน Visa เข้าไปแทนที่เงินสดให้ได้มากที่สุด" สมบูรณ์กล่าว
นอกจากนี้ยังจะมีขยายตลาดออกพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้บัตรชำระเงินแทนที่เงินสด การเพิ่มหมวดหมู่ร้านค้าประเภทใหม่ๆ ทั้งในส่วนของค่าสาธารณูปโภค การชำระภาษี ประกันภัยและค่าเล่าเรียน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีบัตรติดชิปมาใช้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ถือบัตร
Visa คาดว่าในปีนี้จำนวนบัตรเครดิต Visa จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.3 ล้านใบ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ 22-25% แต่บัตรเดบิตจะเป็นบัตรที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด โดยในปีนี้จะมีบัตรใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านใบ จากจำนวน 11.4 ล้านใบ เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา และจำนวนบัตรที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้นด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต Visa มีจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท
สมบูรณ์เล่าว่า ปัจจุบันปริมาณการใช้บัตรเดบิต Visa ยังมีสัดส่วนเพียง 5% ของการใช้บัตร Visa ทั้งหมดที่จุดขาย เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่เคยชินกับการใช้บัตรเดบิตในลักษณะดังกล่าว ดังนั้นในปีนี้ Visa จะโปรโมตให้ผู้ถือบัตรเดบิตมีการใช้ชำระค่าสินค้าที่จุดขายมากขึ้น
สำหรับบัตรองค์กรทั้งในส่วนของภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ ซึ่ง Visa กำลังพยายามผลักดันให้มีการออกบัตรและเกิดการใช้งานมากขึ้น เนื่องจากเป็นบัตรที่มีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรสูง โดยจะพยายามเน้นถึงข้อดีในการช่วยลดขั้นตอนการเบิกจ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับองค์กร ซึ่งในไตรมาสแรกนี้จะมีผู้ออกบัตรเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย
บัตรเครดิตของหน่วยงานรัฐเป็นความหวังสำคัญที่ Visa พยายามจะให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้นในปีนี้ หลังจากช่วงกลางปีที่ผ่านมาได้พาเจ้าหน้าที่ของภาครัฐหลายหน่วยงานไปเข้าร่วมการประชุม Visa International Government Services Conference ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งสาระของงานดังกล่าวพยายามชี้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เห็นถึงข้อดีของการนำระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานในประเทศต่างๆ ที่ได้นำเอาระบบดังกล่าวของ Visa ไปใช้มาร่วมให้ข้อมูล อาทิ กระทรวงกลาโหม ประเทศออสเตรเลีย และ General Services Administration สหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมากลับไม่ค่อยมีข่าวคราวความคืบหน้าของบัตรดังกล่าวออกมามากนัก แต่หลังจากนี้ไปเชื่อว่าจะมีกิจกรรมเชิงรุกของ Visa ออกมามากขึ้นอย่างแน่นอน
|
|
|
|
|