ปีนี้เป็นปีที่บันฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KBank เริ่มสบายใจมากขึ้นกว่าปีก่อน หลังการปรับโครงสร้างองค์กรเริ่มเข้ารูปเข้ารอยตามแนวทางที่เขาต้องการเห็น
จะเหลือแต่ก็เพียงการเข้าไปทำให้เกิดความชัดเจนแก่ตัวพนักงานบริษัทในเครือ ที่ต้องทำหน้าที่ร่วมผนึกกำลังเสนอบริการและผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ให้ถูกต้องตรงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ถูกพัฒนาไปจนกลายเป็นสินค้าที่มีลูกเล่นหลากหลาย หากผู้เสนอบริการไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการให้คำแนะนำแก่ผู้มาขอรับบริการ
ตั้งแต่กลางปีก่อนเป็นต้นมา KBank เป็นที่ที่คึกคักอย่างที่สุด จากการแสดงพลังความร่วมมือของ 6 บริษัทในเครือทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสปอตโฆษณาทางทีวี หลังที่เคยเลิกใช้สื่อนี้ประชาสัมพันธ์ตัวเองมานานนับเป็นสิบๆ ปี ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำกับตลาดว่าธนาคารกสิกรไทยได้เปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็น KBank แล้ว
และบอกให้รู้ถึงการแตกบริษัทในเครือ KGroup เป็น 6 แห่ง เพื่อขยายการให้บริการ ทุกระดับประทับใจอย่างทั่วถึงในทุกความต้องการของตลาด ไม่เว้นกระทั่งคุณลุงวัยไม้ใกล้ฝั่งที่แบกไหอันแน่นไปด้วยเงิน เดินเข้ามา ขอคำแนะนำปรึกษาจากพ่อหนุ่ม K Hero Eagle ผู้แม่นยำ ซื่อตรง มั่นคง ทรงพลัง ซึ่งยืนคอยท่าให้บริการลูกค้าอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์บริษัท K-Assets ให้ช่วยคุณลุงหาแหล่งลงทุนที่จะทำให้เกิดดอกผลงอกแก่เงินทองที่สู้อุตส่าห์เก็บออมมา
แต่ที่เห็นจะครึกโครมคือการออกมาจัดงานแถลงข่าวแบบถี่ยิบแทบไม่เว้นเดือน เพื่อเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ๆ ที่ครอบคลุมครบถ้วนทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดตราสาร หนี้ ก่อนเปิดแถลงข่าวการจัดกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง เพื่อสร้างความชัดเจนในการเสนอ บริการด้านสินเชื่อ การให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินป้องกันความเสี่ยง และการให้คำปรึกษาเพื่อระดม ทุนในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดอีกครั้ง ในวันที่ 25 มกราคม โดยคราวนี้เป็นการมาของประธานเจ้าหน้าที่ KBank บัณฑูร ล่ำซำ ซึ่งได้นัดหมาย ให้ผู้สื่อข่าวมาร่วมฟังแถลงข่าวภาพรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดของการให้บริการจากบริษัทในเครือ KBank Group ทั้ง 6 แห่ง
แม้การปรับโครงสร้างองค์กรธุรกิจในกลุ่ม จนสามารถแตกกิ่งก้านสาขาเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเกื้อหนุนการทำธุรกิจระหว่างกัน โดยร่วมกันเสนอบริการภายในกลุ่ม ให้แก่ลูกค้าผู้ซึ่งกำลังเลือกหาสินค้าที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้ทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต และทุกช่วงเวลาที่ต้องการก็ตาม แต่กิ่งก้านที่แผ่กว้างนี้ ก็ทำให้เกิดการแตกไลน์บริการและสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากมายหลายประเภท จนอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาใน 2 ด้านด้วยกัน
ด้านหนึ่งคือ ความสับสนของตัวเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ในแต่ละบริษัท ซึ่งอาจยังไม่แน่ใจว่า พวกเขาควรจะข้ามไปเลือกหยิบเอาผลิตภัณฑ์หรือบริการใดจากบริษัทไหนในเครือ KBank Group มานำเสนอให้ได้ตรงกับความต้องการใช้บริการตามสไตล์ชีวิตลูกค้าให้ได้มากที่สุดตามที่แต่ละคนต้องการ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง คือ จำนวนสินค้าที่มีมากมายจากผู้ให้บริการนอกกลุ่ม ที่ขยันส่งมาลงตลาดอย่างไม่หยุดหย่อน แต่หากมองผิวเผินแล้วลักษณะสินค้าและบริการอาจไม่ต่างกัน จึงทำให้ตลาดซึ่งเคยสับสนกันอยู่ก่อนหน้า จากจำนวนสินค้าทั้งหมดที่มีนั้น สินค้าของค่ายใดที่จะช่วยตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้แตกได้ในทุกช่วงเวลา และทุกรูปแบบในไลฟ์สไตล์ที่มี ก็ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีกเมื่อคนเห็นสินค้าใหม่ๆ วางขายจนล้นตลาด
"ตอนนี้คนเสนอก็งงว่าตัวเองควรเสนออะไร สินค้ามีเยอะไปหมด ส่วนลูกค้าเองก็งง ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร พอคิดว่าจะมาขอให้ KBank ช่วยแนะนำ ก็เกิดจะงงกันขึ้นมาอีกว่าควรไปบริษัทไหนดี เพราะมีถึง 6 บริษัทในเครือ คิดไม่ออกเลยตัดสินใจมาหาที่แบงก์ก่อน พอมาถึงคนของเราก็งง อีกว่าจะเอาสินค้าอะไรในเครือมาแนะนำ ไปๆ มาๆ ต่างคนเลยต่างพากันนั่งงงอยู่ตรงนั้น คิดไม่ออก ไม่รู้ จะช่วยกันหาทางออกได้ยังไง ไอ้ผมที่นั่งทำงานอยู่ข้างบนก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมคนที่อยู่ข้างล่างถึงงงกัน" บัณฑูรกล่าวอย่างกลุ้มใจ
นั่นคือที่มาที่บัณฑูรและผู้บริหารทุกบริษัทในเครือต้องพากันมาแถลงข่าว เพื่อแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า ตอนนี้ KGroup ได้แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้บริการภายใต้สัญลักษณ์ K Excellence
กลุ่มแรก คือ กลุ่มฝากถอนและปฏิบัติการ ได้แก่ K Dabit Card, K ATM, K Cyber Banking, K Money Transfer, K Currency Exchange, และ K Contact Center ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ KBank จะเป็นผู้ให้บริการ
กลุ่มที่สอง กลุ่มเงินออมและเงินลงทุน ได้แก่ K Stock Trade, K Mutual Fund ซึ่งจะเป็นหน้าที่ ของบริษัท K Securities
กลุ่มที่สาม กลุ่มระดมและการกู้ยืม ได้แก่ K Auto Finance ผลิตภัณฑ์นี้บริษัท KLeasing จะเป็นคนดูแล, บริษัท KFactoring จะให้บริการ K Global Factoring, ขณะที่ K Personal Credit, KSME Credit, และ K Home Loan จะเป็นหน้าที่ของ KBank
กลุ่มสุดท้าย กลุ่มป้องกันความเสี่ยงและสารสนเทศ ได้แก่ K Research Econanalysist ซึ่งเป็นบริการด้านบทวิจัยของบริษัท K Research, และ K Bancassurance จะเป็นผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิตและทรัพย์ที่ KBank จะเป็นผู้ให้บริการเอง
"ผมไม่ได้ต้องการให้ลูกค้าจำว่าเรามี (สินค้า) อะไร มากไปกว่าที่ให้จดจำตัว K ไว้เพียงตัวเดียวก็พอ และเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการใช้บริการ ทางการเงิน แต่นึกไม่ออกว่าตัวเองจะเหมาะกับตัวไหน หรือไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใครแล้ว ผมก็ขอให้นึกถึงตัว K แล้วก็รีบมาหาเราก่อนเป็นที่แรก" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KBank กล่าว
การจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้บริการนี้ เป็นอีกหนึ่งปรัชญาใหม่ในการทำธุรกิจของกลุ่ม KGroup ที่บัณฑูรเคยย้ำนักว่า การให้บริการที่เอาลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เน้นความสะดวกรวดเร็ว และสามารถเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้นั้น จะเป็นมิติปัจจัยหลักที่นำมาชี้วัดได้ถึงความสำเร็จของผู้ให้บริการที่สามารถเอาตัวเองเข้าไปใส่ไว้ในใจของลูกค้าได้ และการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการสนับสนุนปรัชญาแนวคิด Customer Centric ของท่านซีอีโอบัณฑูรแห่ง KBank ที่ตระหนักในข้อเท็จจริงที่ว่า มันเป็นเรื่องยากที่ธนาคารแต่ละแห่งจะทำ financial branding เพราะโดยพื้นฐานสินค้าที่ธนาคารเสนอให้แก่ตลาดไม่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่จะสร้างความ ต่างระหว่างกันได้คือใครจะให้บริการได้ดีกว่า
|