|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2549
|
|
ธนาคารกสิกรไทยเป็นอีกธนาคารหนึ่งที่เริ่มเล็งเห็นความสำคัญของแบงก์แอสชัวรันส์ ถึงแม้การจัดโครงสร้างธนาคารครั้งล่าสุดจะไม่มีธุรกิจประกันรวมอยู่ด้วย แต่ก็ยังมีบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ที่เป็นเครือข่ายของตระกูลล่ำซำและธนาคารร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย
ในปีนี้ธนาคารกสิกรไทยผนึกกำลังกับเมืองไทยประกันชีวิตประกาศรุกธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมให้มากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมามียอดเบี้ยประกันรับปีแรกที่ขายผ่านธนาคารจำนวน 640 ล้านบาทและตั้งเป้าที่จะขายยอดเบี้ยประกันรับปีแรกในปีนี้ให้ได้ถึง 2,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 390%
ความมั่นใจของธนาคารกสิกรไทยเป็นผลมาจากเครือข่ายสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันมีพนักงานของธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตให้ขายประกันได้จำนวน 208 คนกระจายอยู่ตามสาขาต่างๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค
สินค้าตัวแรกในปีนี้ของ K-Bancassurance ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นผลิตภัณฑ์ด้านการประกันชีวิตและการลงทุนในรูปแบบของยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life Insurance) ในชื่อ รวงข้าว UL1 ซึ่งเป็นการประกันชีวิตรูปแบบใหม่ที่ให้โอกาสผู้เอาประกันมีส่วนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สามารถเลือกได้ด้วยตนเองและมีการรับรองผลตอบแทนขั้นต่ำ โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เอาไว้ 300 ล้านบาท
จุดเด่นของรวงข้าว UL1 ที่เมืองไทยประกันชีวิตนำมาเป็นจุดขายนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นได้แก่ การชำระค่าเบี้ยประกันครั้งเดียวแต่ให้ความคุ้มครองเป็นเวลา 10 ปี และในส่วนของการลงทุนมีการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็คือ บลจ.กสิกรไทย โดยมีรูปแบบการลงทุน 3 ประเภทด้วยกัน คือ สินยั่งยืน สินเพิ่มทรัพย์และสินทวีคูณ (ดูรายละเอียดจากตาราง)
สำหรับผลตอบแทนของแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการลงทุน โดยในกรณีของสินยั่งยืนเมื่อครบสัญญามีการรับรองผลตอบแทนขั้นต่ำ 20% ของเบี้ยประกัน ส่วนสินเพิ่มทรัพย์จะรับรองผลตอบแทนขั้นต่ำที่ 15% ของเบี้ยประกันและสินทวีคูณมีการรับรองผลตอบแทนขั้นต่ำที่ 5% ของเบี้ยประกัน โดยในทุกประเภทยังมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากผลดำเนินงานของกองทุนด้วย
กรมธรรม์รวงข้าว UL1 เป็นการใช้ศักยภาพของกลุ่ม KBANK ภายใต้คอนเซ็ปต์ Universal Banking อย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป็นกรมธรรม์ที่ออกโดยเมืองไทยประกันชีวิต ที่ธนาคารกสิกรไทยถือหุ้น จัดจำหน่ายโดยธนาคารกสิกรไทยและบริหารการลงทุนโดยบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ธุรกิจสำคัญของเครือ ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจึงไม่เพียงแค่ค่าธรรมเนียมการขายที่ธนาคารจะได้รับ แต่ยังส่งผลให้เกิดธุรกิจในบริษัทในเครือแห่งอื่นด้วย
|
|
|
|
|