เป็นปีที่สองติดต่อกันอีกครั้งสำหรับผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่ออกมานั่งบนเวทีแถลงข่าวครั้งสำคัญของบริษัทแบบครบทีม โดยมีสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ นั่งเป็นประธานการแถลงข่าว ขนาบข้างด้วยสุทธิชาติ จิราธิวัฒน์, สิทธิศักดิ์ จิราธิวัฒน์, สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์, สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ และปริญญ์ จิราธิวัฒน์ ที่คอยช่วยตอบคำถามในฐานะเป็นผู้บริหารที่ดูแลธุรกิจหลักทั้ง 5 ของกลุ่ม

สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ ที่นั่งตรงกลางเป็นประธานในงานแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวถึงความสำเร็จของกลุ่มเซ็นทรัลในปีที่ผ่านมาและเป้าหมายของกลุ่มในปีนี้ทั้งปี

ใจความสำคัญมีอยู่ว่า แม้ในปี 2548 จะเกิดมรสุมทางเศรษฐกิจหลายอย่าง ทั้งเหตุการณ์สึนามิ ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไข้หวัดนก ผลกระทบในการจับจ่ายใช้สอย ของผู้บริโภคจากภาวะราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่ภัยพิบัติธรรมชาติหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้เป็นผลกับอัตราการเติบโตของกลุ่มเซ็นทรัลแต่อย่างใด

โดยปีที่ผ่านมานั้น ทั้งกลุ่มมีอัตราการเติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว อัตราการเติบโตที่ 12.4 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นยอดขายทั้งสิ้น 87,000 ล้านบาท โดยที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีก หรือ CRC มีอัตราการเติบโตที่ 12.6 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์ (CPN) มีอัตราการเติบโตที่ 12.6 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจค้าส่ง (CMG) เติบโตที่ 5.3 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มธุรกิจเรสเตอรองส์ (CRG) มีอัตราการเติบโตที่ 20.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธุรกิจโรงแรม (CHR) นั้นเติบโตน้อยที่สุดเพียง 2.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ปี 2548 ที่ผ่านมา เซ็นทรัลตั้งงบประมาณในการลงทุนไปกับธุรกิจหลักของตนถึงกว่า 13,400 ล้านบาท แม้จะใช้ไปไม่หมด และโอนผ่านมาใช้รวมกับปีนี้ แต่ธุรกิจที่ถือว่าลงทุนไปมากที่สุด คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ไปมากถึง 5,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากโครงการ Central World และศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในย่านรัตนาธิเบศร์ พระรามเก้าและพัทยา รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่ใช้ไปกับการ renovate สาขาของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันที่มีอยู่

ขณะที่ปี 2549 กลุ่มเซ็นทรัลยังมองเห็นโอกาสในการเติบโตได้เช่นเดิมแม้ปัญหาหลายๆ อย่างยังคงมีให้เห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาทางการเมืองหลายๆ อย่าง แม้กระนั้นเซ็นทรัลก็ยังเชื่อว่ายอดขายในปีนี้จะสูงถึง 96,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่แล้วถึง 11 เปอร์เซ็นต์ และใช้เงินไปกับการลงทุน ในธุรกิจหลักถึงกว่า 16,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนไปกับ Central World การสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ตามแผน การปรับปรุงโรงแรมที่เสียหายจากผลกระทบของสึนามิ ไปจนถึงการ พาแบรนด์เซ็นทรัลออกนอกประเทศ ทั้งอินโดนีเซียหรือเวียดนาม ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาหาพื้นที่ และคาดว่ากระบวนการเจรจาจะสิ้นสุดลงและได้เห็นห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลในประเทศเพื่อนบ้านภายในสิ้นปีนี้

ปริญญ์ จิราธิวัฒน์ ในฐานะที่กำกับและดูแลการเงินของกลุ่มเซ็นทรัลบอกอย่างมั่นใจกับ "ผู้จัดการ" ท้ายวันงานแถลงข่าวว่า "แม้ปัญหาหลายๆ อย่างจะมีต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ แต่ก็มั่นใจว่า คงมีผลกระทบกับตัวเลขรายได้ของกลุ่มที่คาดการณ์ไว้น้อยมากถึงส่วนสำคัญที่สุดจะเป็นเรื่องของการจับจ่ายหรือความสามารถในการซื้อของผู้บริโภคก็ตาม แต่ก็คงไม่น่าจะมีผลกับการดำเนินธุรกิจ ของกลุ่มเซ็นทรัลมากอย่างที่คิด"

ปีหน้า ผู้บริหารทั้งทีมจะนั่งบนเวทีแถลงข่าวความสำเร็จของ กลุ่ม ด้วยตัวเลขที่คาดการณ์กันไว้อย่างวันนี้หรือไม่ คงต้องติดตาม ข่าวคราวกันต่อไป