3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ครบรอบสองปีที่ถือกำเนิดขึ้นในเมืองไทย แม้จะเกิดวิกฤติน้ำมันราคาแพง แต่เฉพาะปีแรก ไทยแอร์เอเชียขนคนไปส่งยังจุดหมายหลายๆ เส้นทางแล้วถึง 120,000 คน ขณะที่ปีที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียขนลูกค้าถึงกว่า 180,000 คน

เช่นเดียวกันปีนี้ ไทยแอร์เอเชีย ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะขนลูกค้า ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว หรือประมาณ 3 ล้านคน โดยเฉพาะผลจากการที่ไทยแอร์เอเชียตัดสินใจเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ อีกหลายเส้น ทั้งกระบี่, สุราษฏร์ธานี, ลาว, พม่า และลาว ประกอบกับการเพิ่มเที่ยวบินที่มีอยู่เดิมจากปัจจุบันวันละ 52 ไฟลท์ เดือน มีนาคมปีนี้จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเป็น 77 ไฟลท์ต่อวัน ไปจนถึงการเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 9 ลำเป็น 12 ลำจนถึงสิ้นปี รวมถึงการสั่งซื้อเครื่องบิน Airbus เพื่อเป็นเครื่องบินลำใหม่เข้ามาใช้งานกลางปีหน้าด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น จำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้นได้ด้วยเหตุผลสำคัญ อย่างหนึ่งนั่นก็คือ การที่ไทยแอร์เอเชีย ตัดสินใจป้อนฐานข้อมูลตารางการบินและจำนวนเส้นทางการบินของตนทั้งหมดเข้าสู่ระบบ การจำหน่ายตั๋วออนไลน์ทั่วโลกของบริษัท กาลิเลโอ อินเตอร์เนชั่นแนล

ระบบจองตั๋วหรือจำหน่ายตั๋วของกาลิเลโอ ที่เรียกว่า จีดีเอส (Global Distribution System) ทำให้เอเยนซี่ที่เป็นบริษัททัวร์สามารถให้บริการจองตั๋วโลว์คอสของไทยแอร์เอเชียให้กับลูกค้าที่จะมาต่อเครื่องหรือเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทยได้ หลังจากก่อน หน้านี้ทำได้เพียงวิธีการเดียวคือ การเข้ามาซื้อตั๋วที่เว็บไซต์ของไทย แอร์เอเชีย หรือแม้แต่เอเยนซี่ไทยเอง ที่อาจจะหลีกเลี่ยงไปซื้อด้วยตนเองที่จุดจำหน่ายต่างๆ ของบริษัท

เอเยนซี่หรือบริษัททัวร์ทั่วโลกสามารถใช้ระบบการจองตั๋วกาลิเลโอเช่นเดิม เพียงแต่มีระบบข้อมูลของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เพิ่มเข้าไปในระบบ ทำให้สามารถเปิดดูวัน เวลา และเส้นทาง การบิน พร้อมทั้งสั่งจองหรือซื้อระบบออนไลน์ได้โดยตรง

"ตั๋วเครื่องบินทุกๆ 4 ใบในโลกนี้ เป็นของกาลิเลโอ" ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวรวบยอดใจความสำคัญของระบบจองตั๋วของกาลิเลโอเอาไว้ในวันงานแถลงข่าว

ทัศพลยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมา เอเยนซี่มักบ่นกับไทยแอร์เอเชียเสมอว่า ไม่สะดวกในการเข้าถึงตั๋วของเครื่องบินของสายการบิน ดังนั้นการลงทุนไปกับระบบดังกล่าว จะช่วยให้เอเยนซี่มีช่องทางใหม่หรือทางเลือกมากขึ้น และหวังว่าการลงทุนครั้งใหญ่ดังกล่าวพร้อมๆ กันกับประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอีกสองประเทศที่ใช้ชื่อแอร์เอเชียเช่นเดียวกัน จะช่วยให้ load facter หรือ อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยจากเดิมอยู่ที่ 76-78 เปอร์เซ็นต์เพิ่มไปเป็น 82-85 เปอร์เซ็นต์ในเร็ววันนี้

กาลิเลโอจึงเหมือนเป็นช่องทางใหม่ของไทยแอร์เอเชีย ที่จะ ช่วยเพิ่ม load facter ได้ยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการเพิ่มเส้นทางการบิน เที่ยวบิน หรือแม้แต่การยกเครื่องระบบการให้บริการของพนักงานบนเครื่อง และรักษาเวลาของการบินของตน

"เราก็เหมือนห้างคาร์ฟูร์ หรือโลตัส ที่ต้องขายของให้ได้ปริมาณ หรือ volumn เยอะๆ แม้จะส่วนแบ่งน้อย แต่หากได้ volumn ก็พยุงธุรกิจไปได้เช่นเดียวกัน" ทัศพลทิ้งท้ายเอาไว้