ข่าวลือไออีซี เตรียมขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตร ในราคาหุ้นละ 7.20 บาท เตรียมประกาศสัปดาห์นี้ ผู้บริหารเผยแผน เล็งแตกไลน์ธุรกิจ ทุ่มทุน 300 ล้าน บาทซื้อหุ้นบริษัทในธุรกิจพลังงาน คาดได้ข้อสรุปในไตรมาส 1 นี้ พร้อมเดินหน้าสร้างธุรกิจไอทีครบวงจรซื้อบริษัท "ไอทีเอาต์ซอร์ส ซีอาร์เอ็ม คอล เซ็นเตอร์ ระบบบิล" เพิ่ม ผู้บริหารแจงการตรวจสอบของ ตลท.-ก.ล.ต.กระทบการเจรจาธุรกิจ แต่มั่นใจผลดำเนินงานงวดปี 2549 จ่ายปันผลได้

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้มีกระแสข่าวว่าบริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริงหรือ IEC เตรียมจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง ให้กับพันธมิตร โดยจะเสนอขายในราคาหุ้นละ 7.20 บาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปและประกาศ ผลภายในสัปดาห์นี้

นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงจำกัด (มหาชน)กล่าวว่า บริษัทได้ปรับประมาณการรายได้ในปี 2549 เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดรายได้ไว้ที่ประมาณ 6 พันล้านบาทเป็น 7-8 พันล้านบาท หลังจากบริษัทจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนในธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภายในไตรมาสที่ 1 นี้ โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นประมาณ 50% ใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าให้กับบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) สูงกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทผลิตไฟฟ้าดังกล่าวเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต

สำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอที) นั้น บริษัทได้วางแผนให้ทำธุรกิจไอทีครบวงจร โดยบริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้วางระบบไอทีครบวงจร (ไอที เอาต์ซอร์ส) ในบริษัท แอพพลิ- เคชั่น โฮสติ้งเซอร์วิส จำกัด (A-HOST) จำนวน 53,900 หุ้น คิดเป็น สัดส่วน 49% ของทุนชำระแล้วของ A-HOST จากบริษัทเมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ในราคา หุ้นละ 1,700 บาท รวม 91.63 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท โลคัส เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ อิงค์ จำกัด จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 25% เป็น 40% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการด้านซีอาร์เอ็ม คอล เซ็นเตอร์ (CRM CALL CENTER) ซึ่งเป็นบริการเกี่ยวกับการบริการลูกค้า การเก็บข้อมูลต่างๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้าน ไอที บริษัทยังมีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทที่ดำเนินการด้านการวางระบบบิล (Billing) โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท

นายสุมิท กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีความสนใที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำและแก๊ส โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในไตรมาส 2 ด้วยและในช่วงไตรมาส 3-4 จะได้ข้อสรุปในการเข้าลงทุนในธุรกิจลอจิสติกส์ ทั้งนี้เม็ดเงินลงทุนจะมาจากการเพิ่มทุนในครั้งที่ผ่านมา และหากต้องการเงินลงทุนเพิ่มบริษัท สามารถเรียกเพิ่มทุนได้จากจำนวนหุ้นที่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน 600 ล้านหุ้น

"ที่ผ่านมาการเพิ่มทุนของบริษัทมักจะเป็นการเพิ่มทุนแบบขาย หุ้นเฉพาะเจาะจง เนื่องจากต้องการคนที่เข้าใจการลงทุนในธุรกิจเรา และการเพิ่มทุนที่ผ่านมาไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทในแง่ของการไดรูต เนื่องจากเป็นการขายหุ้นเพิ่มทุนราคาจะสูงกว่าใน กระดาน" นายสุมิท กล่าว

สำหรับประเด็นการตรวจสอบการซื้อขายของหุ้นบริษัทจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้น นายสุมิท กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอาจมีผลกระทบ ต่อการดำเนินธุรกิจบ้าง ขณะที่เรื่องการตรวจสอบการปั่นราคาหุ้น IEC บริษัทต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักลงทุนคลายความกังวล แต่ยืนยันได้ว่าผู้บริหารของบริษัทไม่ได้มีส่วนเข้า ไปเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว

ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ที่ผมได้เข้ามาบริหาร บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมดแล้ว และคาดว่าในปี 2549 นี้ บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ได้ โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผล ไม่ต่ำกว่า 400% แหล่งข่าวกล่าว