Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์27 กุมภาพันธ์ 2549
“สยามยิปซัม”เจอพิษค่าขนส่งเบนเข็มตั้งรง.ผลิตในเวียดนาม             
 


   
www resources

โฮมเพจ สยามอุตสาหกรรมยิปซัม

   
search resources

Cement
สยามอุตสาหกรรมยิปซัม, บจก.




สยามยิปซัมโดนพิษสงค่าขนส่ง เบนเข็มตั้งโรงงานผลิตในเวียดนาม หลังราคาน้ำมันพุ่งเท่าตัว เดินหน้าขยายตลาดทั้งในประเทศและส่งออก เพิ่มกำลังในประเทศเป็น 100 ล้านตารางเมตรต่อปี ส่วนในเวียดนามเริ่มเดินเครื่องเดือนก.ค.นี้ ด้วยกำลังการผลิต 10 -15 ล้านตารางเมตร รองรับความต้องการยาว 5 ปี

แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันจะค่อนข้างคงที่ แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง ที่โดยรวมแล้วทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 5-10% ขณะที่ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

ทั้งนี้ แนวทางการลดต้นทุนการผลิตคงหนีไม่พ้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต ซึ่งการทำตามแนวทางดังกล่าว นอกจากจะช่วยลดภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแล้ว บางครั้งยังทำให้ต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าขนส่งนั้น การลดค่าใช้จ่าย ทำได้วิธีเดียวคือ การบรรจุสินค้าที่จะจัดส่งให้มากที่สุด รวมถึงไม่ตีรถเปล่ากลับ แต่จะต้องขนส่งสินค้ากลับมาด้วยในเที่ยวขากลับ ซึ่งวิธีดังกล่าว อาจะไม่ได้ช่วยลดค่าขนส่งลงมากนัก เพราะก่อนที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็จะจัดวางสินค้าจนเต็มที่อยู่แล้ว

ในส่วนของบริษัท บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ผู้ผลิตฝ้าเพดานและฝ้าผนังยิปซัม ตราช้าง ก็หนีไม่พ้นภาวะค่าขนส่งเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่แนวทางออกของสยามอุตสาหกรรมยิปซัมฯ คือใช้วิธีการตั้งโรงงานใหม่ให้ใกล้กับสถานที่จัดส่งสินค้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการขนส่งที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง

โอลิวิเย กีลุย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม กล่าวว่า “บริษัททำตลาดทั้งในประเทศ และส่งออกไปใน 25 ประเทศทั่วโลก ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป แต่บางครั้งการส่งออกจากฐานการผลิตในประเทศก็ไม่คุ้มกับรายได้ เพราะการส่งออกในบางประเทศค่าขนส่งแพงกว่าค่าสินค้าอีก”

อาทิ การส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม เสียค่าขนส่งมากกว่าค่าสินค้า ดังนั้น บริษัทจึงได้ขยายการผลิตไปยังประเทศเวียดนาม โดยจะใช้ฐานผลิตที่เวียดนามเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าในเวียดนาม และประเทศใกล้เคียง โดยได้จัดตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่โฮจิมินจ์ ซิตี้ประเทศเวียดนาม โดยการร่วมทุนกับพันธมิตรชาวฝรั่งเศส และออสเตรเลีย

โรงงานใหม่เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท Lafarge ฝรั่งเศส และบริษัท Boral ออสเตรเลีย ถือหุ้นเท่ากัน 50% โดยทั้งสองบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นหลักในบริษัท สยามฯ ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 71% ส่วนที่เหลือ 29% ถือหุ้นโดยเครือซิเมนต์ไทย คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิต เดือน ก.ค. 2549 มีกำลังการผลิตประมาณ 10 ล้านตารางเมตรต่อปี และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงสุด 15 ล้านตารางเมตรต่อปี

“เวียดนามมีประชากรประมาณ 70-80 ล้านคน แต่อัตราการใช้ยิปซัมบอร์ดมีจำนวนน้อยมาก เฉลี่ยที่ 8 ล้านตารางเมตรต่อปี และคาดว่าตลาดจะมีการเติบโตอีกมาก ดังนั้น บริษัทจึงเข้าไปตั้งโรงงานผลิต เพื่อรองรับกับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยกำลงการผลิตเต็มที่ 15 ล้านตารางเมตรจะรองรับความต้องการใช้งานใน 5 ปีข้างหน้า”

สำหรับการดำเนินงานในประเทศ บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 100 ล้านตารางเมตรต่อปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 75 ล้านตารางเมตรต่อปี แบ่งเป็นกำลังการผลิตจากโรงงานสระบุรี 55 ล้านตารางเมตร โรงงานสงขลา 22 ล้านตารางเมตร ส่วนโรงงานที่นวนคร จ.ปทุมธานีเริ่มเครื่องผลิตอีกครั้ง หลังจากที่หยุดผลิตในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจ โดยมีกำลังการผลิตราว 20 ล้านตารางเมตร เพื่อรองรับการส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา

สำหรับภาวะตลาดยิปซัมบอร์ดในระยะ2 - 4 ปีก่อนหน้านี้ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของตลาดบ้านจัดสรรและธุรกิจเชิงพาณิชย์ โดยมีการเติบโตประมาณ 20-25% แต่ในช่วง1-2 ที่ผ่านมา การเติบโตเป็นการเติบโตแบบถดถอย โดยในปี2548 ตลาดรวมมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15% ส่วนในปีนี้ คาดว่าอัตราการเติบโตโดยรวมจะไม่ถึง 10% แบ่งเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์ 5.5% และบ้านจัดสรร 5% เนื่องจากตลาดบ้านจัดสรรชะลอตัว อีกทั้งการก่อสร้างบ้านยังหลังเล็กลงอีกด้วย

โดยในปี 2548 บริษัทมียอดขายรวม 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายยิปซัมบอร์ด 75% และสินค้าอื่น 25% และตั้งเป้ายอดขายปี2549 เติบโตขึ้นประมาณ 10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us