Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์27 กุมภาพันธ์ 2549
“มานพ”เปิดมิติใหม่อสังหาฯนำทัพจัดสรรไทยโกอินเตอร์             
 


   
search resources

มานพ พงศทัต
Real Estate




เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าทุกวันนี้ กลุ่มทุนข้ามชาติจำนวนมากแห่เข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง ยุโรป และอเมริกา ขณะที่กลุ่มทุนจากไทยไม่ค่อยได้ขยายการลงทุนในยังต่างประเทศมากนัก ทั้งที่นักลงทุนชาวไทยหลายรายต้องการที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศบ้าง โดยเฉพาะ ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงตกต่ำ

การขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศนอกจากจะเป็นการเรียนรู้วิธีการทำงาน การลงทุน และศึกษารูปแบบการลงทุนในต่างประเทศ แล้ว ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงอีกด้วย เพราะหากเศรษฐกิจในประเทศตกต่ำ ยังมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาหล่อเลี้ยงองค์กร ขณะเดียวกัน หากภาวะเศรษฐกิจในต่างประเทศตกต่ำ ยังมีรายได้จากการทำตลาดในประเทศเป็นตัวหล่อเลี้ยงองค์กร

ดังนั้น หากนักลงทุนไทยมีโอกาสขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ก็เท่ากับว่า นักลงทุนชาวไทยมีโอกาสเรียนรู้ และนำโนฮาวของต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศได้ อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย

รศ.มานพ พงศทัต นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นานาชาติ (FIABCI – THAILAND) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมกลุ่มทุนจากไทยไปลงทุนในต่างประเทศ และเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย ประเทศไทยจึงเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์อสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศ และล่าสุดประเทศไทยได้รับเลือกจากสหพันธ์อสังหาริมทรัพย์ฯ ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติด้านอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างวันที่ 26-31 พ.ค.2549 ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า โดยหัวข้อที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมในปีนี้ว่าด้วยเรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ที่เอาใจใส่อนาคตโลก”

นับเป็นการจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย โดย การประชุมของ สหพันธ์อสังหาริมทรัพย์ฯ จะถูกจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี หมุนเวียนไปตามประเทศสมาชิกทั่วโลกซึ่งมีมากกว่า 60 ประเทศ โดยสมาชิกของสหพันธ์ฯจะมาจากหลากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ อาทิ สถาบันการศึกษา สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนผู้ประกอบการในหลายสาขา เช่น นายหน้า ผู้จัดการอาคาร ที่ปรึกษา ทนาย นักประเมินค่าสินทรัพย์ นักการเงิน สถาปนิก นักพัฒนาที่ดิน ผู้รับเหมา และนักลงทุน ในแต่ละประเภทอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ที่พักตากอากาศ พื้นที่พาณิชย์ สำนักงาน ที่อยู่อาศัย พื้นที่อุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตร เป็นต้น

ทั้งนี้ ประโยชน์ ที่จะได้จากการเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯนี้คือ การแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งกันและกัน ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ในต่างประเทศ ซึ่งตรงนี้ผู้ประกอบการไทยจะมีโอกาสได้เรียนรู้และหากสนใจก็จะมีทีมที่ปรึกษา ด้านการลงทุนในต่างประเทศมาให้ข้อมูล ซึ่งจะสร้างความมั่นใจด้านการลงทุนให้เอกชนไทยที่สนใจไปลงทุนต่างประเทศได้เป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมาปัญหาใหญ่สุดของผู้ประกอบการคนไทย คือไม่มีข้อมูล เพียงพอในการที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งตรงนี้นับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ เป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทย ให้รอบรู้การลงทุนในต่างประเทศอย่างแท้จริงโดยมีพี่เลี้ยงมืออาชีพ คือสหพันธ์ฯ

นายกสมาคมฯคนใหม่ กล่าวอีกว่า สมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ ของไทย ถูกก่อร่างมาจากสโมสรธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2546 และได้จัดตั้งเป็นสมาคมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนม.ค. 2549 จุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้ผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย ได้พัฒนาคุณภาพ การแข่งขันการงาน โดยร่วมมือและแบ่งความรู้ข่าวสารในประเทศและนอกประเทศ เพื่อเปิดช่องทางให้ติดต่อธุรกิจไปทั่วโลก

อีกทั้งยังช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและเอกชน เพื่อประโยชน์ของสังคม อำนวยความสะดวกการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการตลาด เศรษฐกิจ ข้อมูลรัฐบาล เทคโนโลยีที่มีผลกับธุรกิจ ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมตามหลักจรรยาวิชาชีพ ของสมาชิกทั่วโลก ตลอดจนช่วยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การศึกษาของผู้ดำเนินอาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ไม่ให้เกิดการแบ่งแยก หรือความไม่เท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้วถึง 4 แห่ง ได้แก่ สภาที่อยู่อาศัยไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุด ซึ่งบทบาทของแต่ละสมาคมก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลในแง่ตลาดต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของผู้ประกอบการจากประเทศอื่นที่เข้ามาบุกตลาดเมืองไทย และการออกไปลงทุนในต่างประเทศของผู้ประกอบการไทย ในส่วนนี้ทำให้คนไทยเสียเปรียบ เพราะนอกจากไม่ได้ไปเรียนรู้ การทำตลาดในต่างประเทศแล้ว ยังไม่สามารถนำเงินตราเข้าประเทศได้ ขณะที่ทุกวันนี้ต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ล้วนแต่เป็นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หรูหรา ราคาแพง แล้วก็นำผลกำไรกลับประเทศไป

“ขอยืนยันว่าบทบาทของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นานาชาติไม่ซ้ำซ้อนกับทั้ง 4 สมาคมที่ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ จะเป็นพี่เลี้ยง หรือเป็นเวทีสำหรับนักลงทุนไทยและต่างชาติได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิด หรือเป็นแค่คนกลางประสานให้นักลงทุนได้เจรจาการร่วมทุนกันเท่านั้น ไม่มีส่วนซ้ำซ้อนกับบทบาทของสมาคมฯเก่าทั้3 แห่ง รวมถึงสภาที่อยู่อาศัยไทย”รศ.มานพกล่าวยืนยัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us