ปี 48 บริษัทพัฒนาอสังหาฯยังโกยยอดขายต่อเนื่อง ค่ายศุภาลัยสร้างประวัติการณ์ตั้งแต่ตั้งบริษัท ยอดขายสูงสุด 7,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115% แบรนด์พฤกษากวาดรายได้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมควักเงินปันผลเฉียด 400 ล้านบาท ส่วนคิวเฮ้าส์เครือแลนด์ฯประคองตัว เพิ่มขึ้น 8,000 กว่าล้าน ยอมรับกำไรลดเหตุการแข่งขันรุนแรง ต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น จับตาเอสซี แอสเสทฯธุรกิจในตระกูลชินวัตร รายได้จากการขายลดลง 207 ล้านบาท
ถึงแม้ในช่วงปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องประสบภาวะกับความผันผวนของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยทางด้านอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคลดลงไปด้วย ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ในการขยายช่องทางการตลาด โดยปรับแนวให้น้ำหนักกับกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงล่างมากขึ้น ถึงกระนั้นจากการประกาศตัวเลขผลการดำเนินงานในปี 2548 ที่ผ่านมา พบว่า รายได้จากการขายอสังหาฯยังอยู่ในระดับที่เติบโตขึ้น
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัทมียอดขายสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท โดยมียอดขายที่ทำสัญญาแล้วเท่ากับ 7,381 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขายเท่ากับ 3,433 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 115% ทั้งนี้ เนื่องจากความสำเร็จจากการเปิดโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะการเปิดโครงการซิตี้โฮม 2 ส่วนทางด้านตัวเลขการรับรู้รายได้และความสามารถในการควบคุมต้นทุนก่อสร้าง ยังอยู่ในระดับที่ดี กล่าวคือ บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 3,356.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,424.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% ซึ่งเกิดจากการรับรู้รายได้จากการโอนบ้าน ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุดที่สร้างเสร็จจำนวน 2,480 ล้านบาท
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นแม้จะลดลง เนื่องมาจากบริษัทยังคงนโยบายไม่ปรับราคาในกรณีที่เป็นบ้านสร้างไว้ก่อน และปรับราคาเท่าที่จำเป็นจากราคาวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่งตลอดจนค่าแรงปรับตัวตลอดปีที่ผ่านมา แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังสูงที่ระดับ 43% ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 829.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 480.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73% ทำให้อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมอยู่ที่ 24% และยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุนที่ 1.01 เท่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 0.68 เท่า ส่วนในไตรมาสที่ 4 ปี48 มีรายได้รวม 1,232.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 313.42 ล้านบาท
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ กล่าวว่า มีรายได้รวมเท่ากับ 7,634.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,763.4 ล้านบาท หรือ 56.7% เป็นการเพิ่มขึ้นจากการขายบ้านเดี่ยวถึง 2,273 ล้านบาท หรือ 226.6% จากปีก่อน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,272.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8% ขณะที่ต้นทุนขายอสังหาฯอยู่ระดับ 4,972.7 ล้านบาท เท่ากับ65.1% ของยอดรายได้รวม สูงขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 61.4% ของยอดรายได้รวม สาเหตุมาจากราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงได้เพิ่มขึ้นตลอดปี 48 รวมทั้งการผลิตของโรงงานPrecast ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่สามารถทำการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ได้อนุมัติการจัดสรรกำไร และจ่ายเงินปันผลประจำปี 48 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 388.75 ล้านบาท
ด้านนางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีรายได้รวมในปีที่ผ่านมา จำนวน 8,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 850.4 ล้านบาท หรือผลต่างเพิ่มขึ้น 11.8% ขณะที่รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินจำนวน 6,504.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 415.4 ล้านบาท หรือ 6.8% อย่างไรก็ตามในด้านกำไรสุทธิได้ปรับตัวลดลงจำนวน 141.4 ล้านบาท หรือลดลง 14.7% เนื่องจาก การแข่งขันของผู้ประกอบการขายอสังหาฯทวีความรุนแรงมากขึ้น และต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจขายอสังหาฯมีกำไรขั้นต้นลดลงจำนวน 118.8ล้านบาท หรือลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เอสซีฯยอดขายบ้านลด
นายสหัส ตันติคุณ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 432 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 9.55 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.26% ขณะที่รายได้จากการขายลดลงจำนวน 207.64 ล้านบาท หรือลดลง 21.25% เนื่องมาจากได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราดอกเบี้ย ราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมัน ส่วนรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น 53.75 ล้านบาท หรือ 8.13% เนื่องจากมีผู้เช่าพื้นที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 เพิ่มขึ้น โดยมีอัตราการเช่าสิ้นปีที่ผ่านมา 98.86% มีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการลงทุนในอสังหาฯเพิ่มขึ้น 119.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% ส่วนค่าความนิยมติดลบตัดบัญชีจำนวน 3.41 ล้านบาท
|