|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
บอร์ดเอสซี แอสเสทฯอนุมัติ"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"น้องสาวนายกนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร พร้อมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.40 บาท ราคาหุ้นวิ่งรับปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.17% ก.ล.ต.เตรียมเข้าสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้น ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ไฟเขียวหุ้นปรีชา กรุ๊ปออกจากหมวดรีแฮปโก้กลับไปเทรดในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 7 มี.ค.
นายสหัส ตันติคุณ กรรมการ บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือSC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2549 โดยตั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการบริหารแทนนางบุษบา ดามาพงศ์ กรรมการคนเดิมที่ลาออกไป โดยให้มีผลเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549 และให้นางสาวยิ่งลักษณ์เข้าบริหารงานในฐานะกรรมการของบริษัทย่อย 3 บริษัทซึ่งประกอบด้วย บริษัทอัพคันทรี่ แลนด์ จำกัด,บริษัทโอเอไอ แอสเสท จำกัดและบริษัทวีแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นอกจากนี้ได้ตั้งนายชานนท์ โชติวิจิตร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการบริหารแทนนายพงศ์กิจ สุทธพงศ์ที่ลาออกโดยเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต้วันที่ 1 มีนาคม 2549เป็นต้นไปเช่นกัน และกำหนดชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ นายสหัส ตันติคุณ สองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท
คณะกรรมการยังได้อนุมัติเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 ในวันที่ 26 เมษายน 2549 และอนุมัติให้จัดสรรกำไรสุทธิที่มีจำนวน 432 ล้านบาทเป็นเงินสำรองตามกฎหมายเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 22 ล้านบาทคิดเป็น 5.09% ของกำไรสุทธิ รวมเงินสำรองทั้งหมดเป็นจำนวน 57 ล้านบาท คิดเป็น 1.63% ของทุนจดทะเบียน
อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 128.40 ล้านบาท โดยบริษัทกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผลในวันที่ 7 เมษายน 2549 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติต่อไป
ราคาหุ้นวิ่งขานรับยิ่งลักษณ์นั่งประธาน
ราคาหุ้นวานนี้(23 ก.พ.)เปิดมาที่ระดับ 16.60 บาทหลังจากนั้นได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงสุดที่ 18.50 บาทต่อมาได้มีแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงและมาปิดที่ 17.20 บาทเพิ่มขึ้น 1 บาทหรือ 6.17% มูลค่าการซื้อขาย 897 ล้านบาทเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากสุดเป็นอันดับ 2
ก.ล.ต.ตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้น
นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.อยู่ระหว่างตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หลังจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าตระกูลชินวัตร ได้มีการแจ้งข้อมูลการถือครองหุ้นในแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) โดยไม่ได้นับรวมการถือหุ้นของ OVERSEAS GROWTH FUND INC. และ OFFSHORE DYNAMIC FUND INC. ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับตระกูลชินวัตร
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทีเอสอีซี เปิดเผยถึง สาเหตุที่ราคาหุ้นเอสซี แอสเสทปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากกรณีคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลประจำปี 2548 ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ลงทุน เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยง โดยให้แนวรับไว้ที่ 17.25 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 20.50 บาท
เอสซีโกยกำไร432 ล้านบาท
บริษัทเอส ซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นยังได้แจ้งถึงผลการดำเนินงานในงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 432 ล้านบาทกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.35 บาทกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 422.46 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.32 บาท
ทั้งนี้บริษัทเอสซี แอสเสทมีกำไรเพิ่มขึ้น จำนวน 9.55 ล้านบาทหรือคิดเป็น 2.26% เนื่องจากรายได้จากการขายสำหรับปี 2548 ลดลงจำนวน 207.64 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.25%เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องมาจากผลกระทบจากการปรับอัตราดอกเบี้ย ราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมัน โดยบริษัทฯ มีโครงการที่รับรู้รายได้ในระหว่างปีจำนวน 7 โครงการ
รายได้ค่าเช่าและบริการ สำหรับปี 2548 เพิ่มขึ้นจำนวน 53.75 ล้านบาท หรือคิดเป็น8.13% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีผู้เช่าพื้นที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 เพิ่มขึ้นโดยมีอัตราการเช่า ณ สิ้นปี 2548คิดเป็น 98.86% และกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับปี 2548 เพิ่มขึ้นจำนวน 119.56ล้านบาทหรือคิดเป็น100% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปีนี้มีการประเมินราคาอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 1 และ 2 เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ต้นทุนขายสำหรับปี 2548 ลดลงจำนวน 160.25 ล้านบาทหรือคิดเป็น 25.59% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงตามรายได้จากการขาย
ปรีชากรุ๊ปเทรดหมวดปกติ7มี.ค.
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เห็นควรให้ย้ายหลักทรัพย์ของบริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (PRECHA) จากหมวด REHABCO ไปยังหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง)พร้อมทั้งปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ PRECHA ได้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2549 เป็นต้นไป ทั้งนี้ PRECHA เป็นบริษัทที่ได้ย้ายออกจากหมวด REHABCO เป็นลำดับที่ 3 ในปี 2549
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัท(Strategic Shareholders) ได้แก่ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม กรรมการ และผู้บริหารของบริษัทรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่า 5% ของทุนชำระแล้วและผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งถือหุ้นสามัญ 97,170,582 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท หรือคิดเป็น 72.29% ของทุนชำระแล้ว ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะไม่นำหลักทรัพย์ทั้งหมดของตนออกขายภายใน 1 ปี (Silent Period)นับแต่วันที่หลักทรัพย์ของบริษัทกลับมาทำการซื้อขายในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์(กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง)
ในช่วง 6 เดือนแรก ผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้รับการผ่อนผันให้ทยอยขายหลักทรัพย์ได้ 25% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด และใน 6 เดือนถัดไปสามารถทยอยขายหลักทรัพย์ได้อีกร้อยละ 25 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขายทั้งหมด
|
|
 |
|
|