Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กุมภาพันธ์ 2549
“ทีโอที”เตรียมบล็อกสัญญาณทรู ห้ามโทรเข้า-ออกมือถือทุกระบบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
โฮมเพจ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Telecommunications
ทีโอที, บมจ.
Law




ทีโอทีสู้หลังชนฝา เตรียม 2 เรื่อง 1.ฟ้องทรูให้จ่ายผลประโยชน์กรณีโทรศัพท์ของทรู โทรผ่านโครงข่ายทีโอทีไปยังโทรศัพท์มือถือ และ 2. เตรียมไม้ตายบล็อกสัญญาณทำให้เลขหมายโทรศัพท์ทรูไม่สามารถโทรเข้า-ออก โทรศัพท์มือถือได้ทุกระบบ ส่วนการยื่นเรื่องศาลปกครองเตรียม 3เหตุผลให้เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ

แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที กล่าวว่าทีโอทีจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้ทีโอทีจ่ายชดเชยให้บริษัท ทรูคอร์ปอรชั่นเป็นเงินประมาณ 9.2 พันล้านบาทรวมดอกเบี้ยอีก 7.5% หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทด้วยการอ้างเหตุผลดังนี้

1.คำชี้ขาดไม่เป็นไปตามสัญญาร่วมการงาน เนื่องจากเมื่อคู่สัญญาไม่ได้กำหนดลักษณะของบริการพิเศษไว้ คณะอนุญาโตฯ ไม่มีอำนาจชี้ขาดว่าบริการใดเป็นบริการพิเศษ และไม่มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณส่วนแบ่งรายได้ เนื่องจากตามสัญญากำหนดให้คู่สัญญาต้องทำความตกลงกัน และรายได้ที่เกิดขึ้นโดยยังไม่มีการตกลงกันย่อมตกเป็นของทีโอทีตามสัญญา

2.คำชี้ขาดไม่เป็นไปตามกฏหมาย คณะอนุญาโตฯกำหนดให้ภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเป็นของฝ่ายทรู และให้ทีโอทีเป็นฝ่ายสืบแก้ แต่ปรากฏว่าทรูได้นำส่งเอกสาร การคำนวณส่วนแบ่งรายได้แต่ไม่นำพยานบุคคลซึ่งจัดทำเอกสารดังกล่าวสืบยืนยันเอกสารเพื่อให้ทีโอทีมีโอกาสสืบพยานดังกล่าวหักล้างความถูกต้องของเอกสาร

3.คำชี้ขาดเกินคำขอ หากคณะอนุญาโตฯมีคำชี้ขาดให้ทีโอทีชำระเงินให้ทรู โดยไม่หักจากส่วนแบ่งรายได้ เนื่องจากทรูขอให้หักจากส่วนแบ่งรายได้และฝ่ายทีโอทีมิได้โต้แย้งคำขอดังกล่าว

ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงที่เป็นแนวทางต่อสู้ของทีโอทีปรากฏว่า

1.โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เชื่อมต่อกับโครงข่ายของทีโอทีก่อนที่ทรูจะทำสัญญาร่วมการงานและทรูก็ทราบก่อนแล้วว่าต้องทำการเชื่อมโครงข่ายทรูเข้ากับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มิใช่บริการพิเศษตามที่ทรูกล่าวอ้าง

2.ในสัญญามิได้ให้คำนิยามคำว่าบริการพิเศษ แต่โดยความหมายของ ITU ที่เป็นสากล จะอธิบายว่าบริการพิเศษ หมายถึงบริการนอกเหนือจากการให้บริการปกติ การให้บริการโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์ประจำที่ ต่างก็เป็นการให้บริการปกติของพื้นฐาน การโทรเข้า-ออก มิใช่บริการพิเศษ

และ 3.ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รายได้ที่เกิดขึ้นเมื่อมิได้ตกลงก่อน ย่อมต้องตกเป็นของทีโอทีตามสัญญาร่วมการงานข้อ 33

สำหรับการตอบโต้ของทีโอทีนอกจากฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯซึ่งจะทำให้คำชี้ขาดต้องรอการบังคับคดีไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว ทีโอทีก็จะ1.ยื่นฟ้องให้ทรูชำระผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่โทรศัพท์ในโครงข่ายของทรูโทรผ่านโครงข่ายของทีโอที เข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่เช่นกัน และ 2. ทีโอทีจะระงับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านเข้าโครงข่ายของทรูจนกว่าทรูจะขอเจรจาเกี่ยวกับค่าผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งจะมีผลทำให้เลขหมายในโครงข่ายของทรูไม่สามารถเรียกออก-เข้า กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทุกระบบ

“ถึงที่สุดต่อไปเลขหมายทรูก็คุยกันเองเฉพาะโครงข่ายทรู ไม่ต้องโทรออกไปหามือถือ และมือถือก็โทรเข้าหาเบอร์ทรูไม่ได้ เพราะทุกโครงข่ายต้องต่อผ่านทีโอทีหมด ซึ่งเอกชนรับรู้ตั้งแต่ตอนทำสัญญาแล้ว”

แหล่งข่าวกล่าวว่าขณะนี้พนักงานและผู้บริหารทีโอทีที่ไม่ใช่เป็นร่างทรงของบริษัทเอกชนต่างรู้สึกไม่มั่นคงกับอนาคตของทีโอที และแสดงออกด้วยการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างกัน โดยกลุ่มพนักงานพิทักษ์ ทีโอที นำโดยนายมิตร เจริญวัลย์ อดีตประธานสหภาพฯ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่องสนับสนุนให้ยกเลิกสัญญาบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น นำพนักงานจำนวนหนึ่งมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ดทีโอที และพล.ต.ท.บุญฤทธิ์ รัตนะพร นายสันติ ถิรพัฒน์ และนายสมชาย เธียรอนันต์ กรรมการบอร์ด รวมทั้งนายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่

นายมิตรกล่าวว่าในสถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องให้กำลังใจประธานบอร์ดและผู้บริหารที่กล้าตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารมักอลุ่มอล่วยให้กับเอกชนเพราะมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน โดยเฉพาะผู้บริหารบางคนเมื่อเกษียณจากทีโอทีก็ไปทำงานที่บริษัททรูหลายคน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่เหมาะสม รวมทั้งผู้บริหารด้านดูแลผลประโยชน์ก็ต้องให้ความสนใจกับเรื่องนี้เพราะทรูดำเนินการละเมิดสัญญาหลายเรื่อง เช่นการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็ว การทำธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การนำทราฟิกเข้ามาภายในประเทศและให้บริการพีซีที บัดดี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดทีโอทีต้องเอาจริงเรียกค่าเสียหายก่อนบอกเลิกสัญญา

ส่วนสหภาพฯทีโอทีชุดปัจจุบัน ที่แปลงสภาพจากสหภาพแรงงานรัฐิสาหกิจที่ดำเนินการเพื่อพนักงาน ปกป้ององค์กร กลายเป็นสหภาพฯผู้บริหาร ที่คอยเดินตามและทำตามผู้บริหารสั่ง เนื่องจากเข้ากันได้ดีกับผู้บริหาร แต่ยืนคนละข้างกับบอร์ด ก็ยกขบวนพนักงานไปวางหรีดที่วิทยาลัยพยาบาลหัวเฉียว บางพลี ที่เป็นที่ทำงานของนายประสิทธิ์ โฆวิไลกุล ที่เป็นประธานคณะอนุญาโตฯชุดตัดสินให้ทีโอทีแพ้ ซึ่งนายประสิทธิ์เป็นคนที่นายเข็มชัย ชุติวงศ์ บอร์ดทีโอทีแนะนำ ซึ่งทำให้บอร์ดและผู้บริหารทีโอทีมั่นใจว่าปิดประตูแพ้ แต่ปรากฏว่ารปภ.ไม่ให้เข้าจนเกิดเหตุกระทบกระทั่งถึงขั้นวางมวย ซึ่งถือว่าทำให้ภาพลักษณ์ทีโอทีเสียหายหนักขึ้นไปอีก รวมทั้งยังมีการนัดหมายพนักงานทีโอทีให้แต่งชุดดำไปประท้วงทรูที่อาคารทรูทาวเวอร์ในวันนี้ (24 ก.พ.) ซึ่งไม่น่าจะถูกเรื่องนัก

แหล่งข่าวกล่าวว่ากระบวนการอนุญาโตฯ ที่ผ่านมารัฐมักไม่ค่อยได้เปรียบเอกชน เพราะเอกชนสามารถล็อบบี้ได้ง่ายกว่า และคดีสำคัญๆที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก รัฐจะแพ้เอกชนมาตลอด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us