Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2540
FBT รุกขายไลเซนส์สินค้าที่ระลึก เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 (1998)             
 


   
search resources

FBT
มนต์ชัย โชคไพบูลย์กิจ




ภายหลังจากที่ FBT หรือบริษัทโรงงานฟุตบอลไทยสปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ หรือ BAGOC (Bangkok Asian Games Organizing Committee) ทางบริษัทก็ได้มีการเปิดขายลิขสิทธิ์เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ให้กับบรรดาผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ระลึกสำหรับงานนี้ ซึ่งทาง FBT ได้แบ่งสินค้าออกเป็นหมวดต่างๆ ตามประเภทของสินค้า แบ่งออกเป็นประมาณ 100 หมวด และมีสินค้าทั้งสิ้นประมาณ 2,000 รายการ

"มีดีลที่เราเปิดไปแล้ว 2 รายการคือ สินค้าประเภทตุ๊กตา และเนกไท ซึ่งหากมีรายอื่นสนใจที่จะทำสินค้าในหมวดนี้ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะสินค้าในแต่ละหมวดก็จะมีผู้ผลิตได้เพียงรายเดียวเท่านั้น และขณะนี้สินค้าทั้ง 2 รายการนี้ก็สามารถผลิตและจำหน่ายได้แล้วด้วย" มนต์ชัย โชคไพบูลย์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ FBT เปิดเผย

ขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 15 เดือน ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะในการทำการตลาดและจำหน่ายสินค้าฯ ดังนั้นบริษัทที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจในครั้งนี้ก็ควรเข้าไปติดต่อกับทาง FBT อย่างรวดเร็ว

ผู้บริหารของ FBT ตั้งเป้าไว้ว่า จะขายลิขสิทธิ์ทั้งหมดให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากหากใครสามารถเปิดดีลกับ FBT ได้ก่อนก็จะสามารถผลิตสินค้าได้ทันเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเขาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่จะทดสอบตลาดได้ดีทีเดียว

"ตอนนี้มีคนเข้ามาติดต่อกับเราไม่ต่ำกว่า 4-5 ราย ในแต่ละหมวดสินค้า ซึ่งเราก็จะพิจารณาคัดเลือกจากศักยภาพของบริษัทที่มาติดต่อกับเรา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการผลิตสินค้าคุณภาพ สถานะทางการเงิน และที่สำคัญคือแบรนด์เนม ซึ่งหากเขาได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ผลิตได้ เขาก็สามารถโฆษณาแบรนด์ของเขาคู่กับสินค้าลิขสิทธิ์เอเชี่ยนเกมส์ แต่มีเงื่อนไขว่าเอเชี่ยนเกมส์ต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เมื่อตีมูลค่าเป็นเงินก็เกินคุ้มแล้ว" มนต์ชัยชี้แจง

สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ตัวแทนลิขสิทธิ์ต้องจ่ายเท่ากันทุกรายคือ 10% ของยอดขาย และอีกส่วนคือค่าประกันลิขสิทธิ์ของแต่ละหมวดสินค้า ซึ่งในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ยิ่งสินค้าหมวดไหนที่คาดว่าจะสร้างยอดขายได้มากก็จะเสียค่าประกันฯ มาก

"อย่างเช่น หมวดตุ๊กตาที่เราปิดไปแล้วนั้น เรากำหนดเงินประกันฯ ที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุด สำหรับสินค้าในหมวดอื่นๆ จะมีเงินประกันอยู่ในช่วง 20,000-500,000 เหรียญสหรัฐ สาเหตุที่หมวดตุ๊กตาแพงที่สุดก็เนื่องจากว่า ตุ๊กตาจะเป็นสินค้าที่ได้รับการประชาสัมพันธ์มากที่สุดในทุกๆ สื่อ และเป็นสินค้าที่จะขายได้มากที่สุด ซึ่งบริษัทที่มาซื้อลิขสิทธิ์ผลิตสินค้าตัวนี้กับเรา เขามองเห็นศักยภาพตรงนี้ เขาถึงรีบมาปิดดีลกับเรา ผมก็หวังว่าคนอื่นจะเห็นโอกาสอันมหาศาลทางธุรกิจนี้เช่นเดียวกันด้วยการเข้ามาคุยกับเรา เพื่อจะสามารถปิดดีลได้อย่างรวดเร็ว" มนต์ชัยกล่าวเชิญชวนและเขายังกล่าวถึงสินค้าที่มีมูลค่ารองลงมาจากตุ๊กตาอีกก็คือ เข็มกลัดและเครื่องเขียน เป็นต้น

หากมาคำนวณเม็ดเงินคร่าวๆ แล้ว FBT คงมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 360 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลิขสิทธิ์ที่ขายในประเทศประมาณ 300 ล้านบาท และในต่างประเทศประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งนอกจาก FBT จะมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์แล้ว บริษัทยังมีรายได้จาก 10% ของยอดขายสินค้าแต่ละหมวดด้วย รวมทั้งสินค้าในหมวดกีฬาที่ทาง FBT ได้ผูกขาดเป็นผู้ผลิตแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในส่วนนี้ ผู้บริหารหนุ่มกล่าวว่า

"เรากันในส่วนของสินค้ากีฬาไว้ผลิตเองทั้งหมด เนื่องจากเราเองก็อยู่ในธุรกิจกีฬาและถ้าหากสินค้าในหมวดนี้หลุดออกไปสู้มือของผู้ผลิตรายอื่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์จากต่างชาติ เราก็จะเสียสิทธิ์ไปโดยเปล่าประโยชน์"

งานนี้ FBT ต้องเสียเงินไปสำหรับการเป็นตัวแทนสิทธิบัตรจำหน่ายของที่ระลึกให้กับ BAGOC เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6 ล้านเหรียญฯ รวมทั้งต้องจ่ายอีก 70% ของรายได้ที่ได้จากการขายของด้วย

"งานนี้กำไรที่เป็นเม็ดเงินนั้นไม่มีแน่นอน แต่สิ่งที่เราจะได้ยิ่งกว่าเงินก็คือชื่อเสียงของ FBT ที่จะก้าวสู่ระดับนานาชาติและที่สำคัญเป็นการช่วยประเทศชาติด้วย แต่อย่างไรก็ดี เราคิดว่าเราคุ้มทุนแน่ เพราะเราจะได้กำไรจากการขายสินค้าอย่างต่ำก็ 30% ภายหลังจากหักรายได้ให้กับ BAGOC แล้ว" มนต์ชัย กล่าว

เป็นที่สังเกตว่า แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพการจัดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยว่าอาจถูกยกเลิกนั้น แต่คณะกรรมการต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับงานนี้ต่างก็มีความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะไม่ถูกถอดจากการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งมนต์ชัย ได้ให้ความเห็นว่า

"ผมมั่นใจ 100% ว่า ประเทศไทยจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้จัดขึ้นในประเทศไทย เพราะโอกาสอย่างนีจะไม่เวียนมาอีกแล้วอย่างน้อยก็หลายสิบปี และเอเชี่ยนเกมสเป็นงานกีฬางานเดียวที่ได้เงินเยอะที่สุดในโลก เพราะเราสามารถโฆษณาบริษัทของเราในทุกสนามแข่งขันหรือแม้แต่กับทีมนักกีฬาก็ได้ แม้โอลิมปิกซึ่งเป็นงานที่ใหญ่กว่ายังไม่สามารถทำเงินได้เยอะเท่าเอเชี่ยนเกมส์ เพราะโอลิมปิกเป็นงานกีฬาเพื่อมิตรภาพจริงๆ ไม่ใช่ในเชิงธุรกิจ ฉะนั้นทาง BAGOC และรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะประกาศศักยภาพของประเทศไทยต่อชาวโลกได้หลุดลอยไปหรอก ยิ่งกว่านั้นงานนี้ถือเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของประเทศขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งด้วย"

ซึ่งเขาหวังว่าระยะเวลานับจากนี้ สื่อมวลชนทุกสื่อจะไม่นำเสนอข่าวในเชิงลบต่อเอเชี่ยนเกมส์อีกต่อไปแล้ว คงจะมีการเสนอข่าวในแง่ของความคืบหน้าในการดำเนินงานเท่านั้น

"ทุกอย่างที่มีแง่ลบก็ต้องมีแง่บวก เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันถือเป็นผลบวกกับเรา เพราะจะทำให้สินค้าของเรามีจุดขายที่เด่นขึ้น เนื่องจากมีสัญลักษณ์ของเอเชี่ยนเกมส์เป็นประกันว่า สินค้าเหล่านี้ไม่ได้หาซื้อได้ตลอดไป พอจบเกมส์แล้วก็จบกันไป แต่หากใครที่มีไว้ในครอบครองก็สามารถบอกลูกหลานในอนาคตได้ว่า ของที่ระลึกนี้หาซื้อไม่ได้แล้วนะ ซึ่งจะกลายเป็นความทรงจำครั้งประวัติศาสตร์ทีเดียว ที่อย่างน้อยก็ได้เป็นเจ้าของที่ระลึกเอเชี่ยนเกมส ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย" นี่เป็นอีกมุมมองหนึ่งของมนต์ชัย

หรือหากเหตุการณ์เกิดแปรผัน ในทางกลับกันของที่ระลึกชิ้นนีอาจกลายเป็นความทรงจำครั้งประวัติศาสตร์ก็เป็นได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us