Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2540
ทิปโก้สวนกระแส เปิดตัวน้ำผลไม้เด็ก "คาปริ-ซอน"             
 


   
search resources

ทิปโก้ฟูดส์, บมจ.-TIPCO
สมชาย ชุณหรัศมิ์
Soft Drink




ทิปโก้ฟู้ดส์ ยักษ์ใหญ่น้ำผลไม้ของไทยประกาศสวนกระแสเศรษฐกิจ เปิดตัวน้ำผลไม้พรีเมียมใหม่ล่าสุดจากยุโรป "คาปริ-ซอน" เจาะตลาดกลุ่มเด็ก ด้วยรูปลักษณ์แพ็กเกจจิ้งดีไซน์ใหม่ ถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ สีสันทันสมัยและรสชาติแปลกจากน้ำผลไม้ทั่วไป

ปัจจุบันตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องคือประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งในปี 2539 ที่ผ่านมานั้นมีมูลค่าตลาดทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ทิปโก้ฟู้ดส์คาดหมายว่าในปี 2540 มูลค่าตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท

โดยที่ผ่านมา มีการนำเข้าน้ำผลไม้ประมาณ 6% มีสินค้ามีคุณภาพที่ผลิตในประเทศประมาณ 34% เป็นสินค้าราคาย่อมเยา (popular market) 27% และเป็นสินค้าราคาประหยัด (economy market หมายถึงน้ำผลไม้ที่มีราคาประมาณลิตรละ 20 กว่าบาท) ประมาณ 20-32%

เมื่อดูจากโครงสร้างตลาดเช่นนี้ ทิปโก้ฟู้ดส์ ซึ่งมีสินค้าในตลาดอยู่แล้ว 2 ตัวคือ น้ำผลไม้ทิปโก้ 100 % ซึ่งอยู่ในตลาดบนคือสินค้ามีคุณภาพ และน้ำผลไม้ 25% ฟรุตเต้ ซึ่งสินค้าทั้ง 2 ตัวต่างเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ทั้งหมดหลังจากที่เริ่มเข้าสู่ตลาดเพียง 3 ปี

อย่างไรก็ดี เพื่อรักษาสัดส่วนการเป็นผู้นำตลาดและเพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้มากขึ้น สมชาย ชุณหรัศมิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทได้ร่วมกับยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องดื่มจากเยอรมนีคือบริษัทรูดอล์ฟ ไวล์ จำกัด (Rudolf Wild GMBH & CO.KG) เพื่อผลิตน้ำผลไม้ คาปริ-ซอน (Capri-Sonne) ในประเทศไทย

สมชายเล่าว่าโครงการเริ่มมาได้ 2 ปีแล้ว โดยบริษัท รูดอล์ฟ ไวล์ ได้เข้ามาหาผู้ร่วมทุนเพื่อทำการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย บริษัทนี้เป็น 1 ในผู้ผลิตน้ำผลไม้ชั้นนำของโลก ดำเนินธุรกิจน้ำผลไม้มานานกว่า 35 ปี และมีการผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้คาปริ-ซอน ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้อันดับ 1 ในสหรัฐฯ เป็นคู่ค้ากับบริษัท เจเนอรัล ฟู้ดส์-ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ บริษัทมียอดขายในตลาดสหรัฐฯ 1,200 ล้านซอง

รูดอล์ฟ ไวล์ จะให้การสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีในการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด ซึ่งในตอนนี้ ทิปโก้ฟู้ดส์ใช้กำลังการผลิตยังไม่ถึงครึ่งของกำลังการผลิตทั้งหมดที่มี ซึ่งคาดหมายว่าจะสามารถขยายตลาดได้มากกว่านี้และครอบคลุมถึงตลาดอินโดจีนด้วย

คาปริ-ซอน เป็นน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมที่เจาะกลุ่มตลาดเด็กตั้งแต่อายุ 6-12 ปี อันเป็นกลุ่มวัยที่ชอบสีสันของแพ็กเกจจิ้งใหม่ ทั้งนี้บริษัทได้มีการทำการทดลองทางการตลาดโดยผ่านช่องทางโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมาก

สมชายกล่าวว่า ในปีนี้ คาปริ-ซอน จะจัดจำหน่ายใน 3 รสคือ รสส้ม เป็นน้ำผลไม้ 20% ที่ผสมระหว่างส้มเอเชียกับส้มแมนดาริน ให้รสชาติแบบที่คนเอเชียชอบ รสซาฟารี เป็นน้ำผลไม้ 11% รวมรสสูตรสับปะรดผสม กับส้มแมนดาริน และรสสตรอเบอรี่คูลเลอร์ เป็นน้ำผลไม้ 12% ผสมผสานระหว่างน้ำสตรอเบอรี่ น้ำส้ม และน้ำองุ่นแดงบรรจุในถุงอะลูมิเนียมฟอยล์แบบใหม่ ขนาด 200 มิลลิเมตร ช่วยรักษาความเย็นได้นาน

ทิปโก้ฟู้ดส์มอบหมายให้บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งสมบุญ ประสิทธิจูตระกูล ผู้จัดการฝ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคดีทแฮล์มกล่าวว่า "ดีทแฮล์มอาศัยช่องทางจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งกว่า 1,000 แห่งทั้งคอนวีเนียนสโตร์ ซูเปอร์สโตร์โดยจะเน้นหนักการกระจายสินค้าในกทม.และหัวเมืองใหญ่ พร้อมกับมีรายการส่งเสริมการขายและสร้างการรับรู้ให้กลุ่มบริโภคที่เป็นเด็ก โดยการจัดกิจกรรมไปยังโรงเรียนกว่า 100 แห่ง ทั่วกทม. รวมทั้งสวนสนุก สนามเด็กเล่น"

นอกจากนี้บริษัทยังมีภาพยนตร์โฆษณาที่เป็นแคมเปญจากต่างประเทศกระตุ้นให้กลุ่มผู้ปกครองเข้าใจและสนใจด้วย รวมทั้งโฆษณาชุดที่เป็นภาษาไทยซึ่งจัดทำขึ้นใหม่ และสามารถดึงดูดความสนใจได้ดีด้วยภาพลักษณ์ของความสนุกสนานเร้าใจ

บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะสร้าง คาปริ-ซอน ให้เป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้สำหรับเด็กภายใน 1 ปี โดยมีส่วนแบ่งตลาด 7.6% ของตลาดน้ำผลไม้ทั้งหมด

ส่วนตัวบริษัททิปโก้ฟู้ดส์นั้น เมื่อปี 2539 ที่ผ่านมามียอดขายรวมประมาณ 200 ล้านบาท แต่ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสวนกระแสเศรษฐกิจตกต่ำมาก กล่าวคือตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ 500 ล้านบาท ซึ่งสมชายกล่าวว่า "ในช่วงก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระแสข่าวไม่ดีทางเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่บริษัทกลับมียอดขายน้ำผลไม้ที่ดี ตามตัวเลขจากบริษัทวิจัย ดีมาร์ นั้น บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 30% แล้วในตอนนี้ คาดว่าในสิ้นปี บริษัทน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้"

เหตุที่ทิปโก้ฟู้ดส์มั่นใจมากเช่นนั้น เพราะอัตราการบริโภคน้ำผลไม้ในประเทศไทยค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ กล่าวคือมีการบริโภครวมทั้งสิ้น 54 ล้านลิตรในปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นอัตรา 0.9 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น ซึ่งแสดงว่าตลาดนี้ยังสามารถผลักดันให้เติบโตได้อีกมาก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us