|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยออพติคอล เล็งกระจายหุ้น 13-14 มี.ค.นี้ เคาะราคาเบื้องต้น 3 บาทเศษ จับตามองการชุมนุม 26ก.พ.อย่างใกล้ชิด ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรง พร้อมเลื่อนการขายหุ้นออกไป ลีดอันเดอร์ไรเตอร์มั่นใจขายหุ้นเกลี้ยง เหตุปัจจัยพื้นฐานแน่น ขณะที่หุ้นซิตี้ สตีลเข้าเทรดว้นนี้เป็นวันแรก โบรกฯประเมินยืนเหนือจองแต่สูงไม่มาก
นายพรทัต อมตวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ AYS ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นบริษัทไทยออพติคอล กรุ๊ป (มหาชน) หรือ tog เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังคงที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามแผน ซึ่งจะเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 68 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นเดิมอีก 15.37 ล้านหุ้น ในวันที่ 13-14 มีนาคม 2549
อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอดูสถานการณ์ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะถ้ามีเหตุการณ์ที่รุนแรง อาจจะมีผลกระทบต่อการขายหุ้นของบริษัท และอาจจะต้องมีการเลื่อนการขายหุ้นออกไป แต่บริษัทมั่นใจว่าเมื่อมีการเปิดให้ขายหุ้นจะสามารถขายหุ้นไทยออพติคอลหมดแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวจากบริษัท บริษัทไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทยังคงแผนเดิมที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในวันที่ 22 มีนาคม 2549 ซึ่งจะไม่มีการเลื่อนเข้าจดทะเบียน สำหรับราคาขายหุ้นเบื้องต้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 บาทเศษ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สรุปราคาที่แน่นอน
ทั้งนี้บริษัทมีรายได้รวมปี2548 จำนวน 1,092 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเป้าหมายของบริษัท เนื่องจาก ไตรมาส3/48 บริษัทประสบปัญหาในเรื่องวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศไม่ได้คุณภาพจึงทำให้บริษัทผลิตสินค้าจำหน่ายไม่ตามเป้าหมาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงบริษัทได้มีการลงทุนในเรื่องระบบ
สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 48 ซึ่งเป็นการเติบโตตามตลาดรวม และจากการที่บริษัทมีแผนที่จะมีการขยายกำลังการผลิตในเลนส์ที่มีคุณภาพสูง คือ เลนส์กันกระแทกเพิ่มมากขึ้นและการพัฒนอุตสาหกรรมในส่วนของการผลิตเลนส์ชนิดใหม่ๆที่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีกำไรขั้นต้นสูง
นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บล.บีที ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทซิตี้ สตีล จำกัด(มหาชน)(CITY) กล่าวว่าหุ้นบริษัทซิตี้ สตีล จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกในวันนี้ (23 ก.พ.)เชื่อว่าหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าราคาหุ้นวันแรกจะเป็นเช่นไร เนื่องจากขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อขายของนักลงทุนเป็นหลัก เพราะในขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนและนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในการลงทุนมากนัก แต่บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมีจุดเด่นที่การเป็นผู้นำตลาดและสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้โดยไม่ได้รับความเสี่ยงจากราคาต้นทุนเหล็กที่มีความผันผวน อีกทั้งราคาหุ้นไอพีโอยังมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 34 %
สำหรับสัดส่วนการจัดสรรหุ้น บริษัทจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันคิดเป็น40% ของหุ้นที่เสนอขายทั้งหมดนั้นเชื่อว่านักลงทุนสถาบันจะเน้นการลงทุนในระยะยาว
บริษัทซิตี้ สตีล แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2549 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2548 ปรากฏว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 39.90 ล้านบาทกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.57 บาท ซึ่งกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.53 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.48 บาท
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวถึงการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกของบริษัท บริษัท ซิตี้ สตีล คาดว่าจะสามารถสูงกว่าราคาจองได้ที่ 2.94 ต่อหุ้น มีค่าP/E 6.8 เท่า ซึ่งบริษัทให้ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 3.50 บาท ต่อหุ้น มีค่าพี/อี เรโชที่ 8 เท่า เนื่องจากมองว่าบริษัทซิตี้ สตีลมีโอการการเติบโตที่ดี จาการที่บริษัทได้มีการเพิ่มกำลังการผลิต และบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กที่มีความผันผวน เพราะ บริษัทไม่มีการเก็บสต็อกสินค้า
อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดเช่นกัน และอาจได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาจากกลุ่มกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มาหชน) กล่าวว่า บริษัทคาดราคาหุ้นบริษัทซิตี้ สตีลจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะมากกว่าราคาจองไม่มากนัก เนื่องจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย หากนักลงทุนมีกำไรก็ควรที่จะมีการขายออกมา แต่ก็สามารถที่จะลงทุนในระยะยาวได้ เนื่องจากบริษัทมีการประกอบธุรกิจในการแปรรูปเหล็ก ซึ่งจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กที่ผันผวนจากที่ไม่เก็บสต๊อกสินค้า โดยบริษัทให้ราคาเหมาะสมที่ 4 บาทต่อหุ้น
|
|
|
|
|