กลุ่มรับเหมาก่อสร้างในก๊วนรัฐบาล "ซิโน-ไทย จับมือ อิตัลไทย" เข้าวินประเดิมอี-อ๊อคชั่นใหม่ศูนย์ราชการกรุงเทพฯ ตัดราคาคู่แข่งส่งผลประหยัดงบประมาณแผ่นดิน 1,029 ล้านบาท ระบุเสนอราคาก่อสร้างไม่บวกค่าK ด้านชิโน-ไทยบ่นอุบได้งาน 3 สัญญา แต่อิตัลไทยได้แค่ 1งานมูลค่าสูงลิ่ว

นายชัยเกษม นิติศิริ ประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งวัฒนะ เปิดเผยว่า การเปิดประมูลศูนย์ราชการกรุงเทพจำนวน 4 โครงการ ของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.) ด้วยวิธีการประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-อ็อคชั่น ปรากฎผลการประมูลดังนี้ โครงการแรกในสัญญาที่ 2 การก่อสร้าง อาคาร เอ และอาคารจอดรถ ซึ่งมีราคากลาง ที่ 3,780 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) STEC เสนอราคา 3,395 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 10.19% หรือ 385 ล้านบาท

โครงการที่ 2 ในสัญญาก่อสร้างที่ 3 การก่อสร้าง อาคาร บี พร้อมลานรอบอาคาร มูลค่าราคากลาง 7,355 ล้านบาท ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD เสนอราคา 6,877 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 6.5% หรือ 478 ล้านบาท , โครงการที่ 3 ในสัญญาก่อสร้างที่ 4 อาคารจอดรถ บี ศูนย์ประชุมและหอพัก ราคาเริ่มต้นการประมูล 2,022.5 ล้านบาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคา1,860 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 8.02% หรือ 162.5 ล้านบาท

และโครงการที่ 4 ในสัญญาก่อสร้างที่ 5 ระบบสาธารณูปโภค อาคารควบคุม และหอประชุมทรงกลม ราคาเริ่มต้นประมูล 1,103.5 ล้านบาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยมูลค่า 1,100 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 0.32% หรือ 3.5 ล้านบาท

"การเสนอราคาดังกล่าวสามารถทำให้ธพส.ลดราคาลงไปได้จาก 14,261 ล้านบาท เหลือเพียง 13,232 ล้านบาท หรือลดไปได้1,029 ล้านบาท คิดเป็น7.215% โดยหลังจากนี้กรรมการจัดประมูลจะนำราคาเสนอธพส.ในวันนี้ และตามหลักTORแล้วธพส.จะไม่ยึดหลักราคาต่ำสุดเป็นเกณฑ์สำคัญ ซึ่งจะต้องดูTOR เป็นส่วนประกอบ และจะแจ้งผลสรุปการประมูลสุดท้ายอีกครั้ง ทั้งนี้ การประมูลโครงการดังกล่าวถือเป็นการประมูลที่มีมูลค่ามากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดประมูลใหม่โดยใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิคส์" นายชัยเกษมกล่าว

สำหรับผลการประมูลในครั้งนี้ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) ได้งานประมูลไปทั้งสิ้น 7,384 ล้านบาท บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด(มหาชน) ได้งานประมูล 6,877 ล้านบาท

โดยผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่มีการประมูลโครงการที่ 3 หรือสัญญาที่ 4 นั้น บริษัทผู้ร่วมประมูลรายหนึ่งได้แจ้งความจำนงจะไม่ร่วมประมูล แต่เมื่อถึงเวลาประมูลจริง บริษัทดังกล่าวกลับเสนอราคาเข้ามาทำให้ระบบที่ตั้งไว้เกิดการขัดข้องขึ้น คณะกรรมการจัดการประมูลจึงได้สั่งยกเลิกการประมูลดังกล่าว และนำโครงการที่ 4 หรือสัญญาที่ 5 มาเปิดประมูลก่อน แล้วจึงนำโครงการที่ 3 หรือสัญญาที่ 4 มาเปิดประมูลอีกครั้ง

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.) กล่าวว่า วันนี้(23 ก.พ.) จะเสนอผลการประมูลต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อรับรองผลอย่างเป็นทางการ และในต้นเดือนหน้าก็จะเริ่มทำการก่อสร้างได้ โดยกำหนดก่อสร้างเสร็จในปี 2551 นับว่าการประมูลด้วยระบบดังกล่าวช่วยให้ราคาประมูลเป็นประโยชน์ต่อทางราชการมาก เพราะแม้ในช่วงนาทีสุดท้าย บริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯ ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลแล้ว แต่ไม่รู้ว่าราคาเป็นเท่าใด เดิมเสนอราคาที่ 6,990 ล้านบาท ก็ยังลดราคาลงอีกเหลือ 6,877 ล้านบาท

นายพิเชษฐ อาริยวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายปฏิบัติการ ธพส. กล่าวว่า สำหรับการระดมทุนในการก่อสร้างนั้น ได้ออกพันธบัตรวงเงิน 10,300 ล้านบาท อายุพันธบัตร 7,10,15,20 ปี ในช่วงปลายปี 48 ซึ่งมีนักลงทุนสนใจจองซื้อเกินวงเงินที่ออกถึง 800 ล้านบาท และในงวดที่ 2 คาดว่าจะระดมทุนอีกประมาณ 9,000 ล้านบาท ในช่วงหลัง ไตรมาส 2 โดยจะดูสภาพตลาดในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เพื่อจำหน่ายให้แก่ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อย

แหล่งข่าวจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯกล่าวว่า ราคาที่บริษัทได้ ถือเป็นราคาถูกที่สุดที่บริษัทได้คำนวณราคามาล่วงหน้า โดยราคาดังกล่าวบริษัทยังไม่ได้รวมค่าK ซึ่งหากเผื่อค่าKในราคาประมูล ก็ไม่สามารถเสนอราคานี้ได้ ส่วนสาเหตุที่ประมูลในราคาที่ต่ำ ก็เพื่อให้ได้งานชิ้นนี้

" ตอนแรกคิดว่าจะไม่สู้กันรุนแรงขนาดนี้ เดิมเราไม่ได้คิดว่าจะสู้ในราคาสุดท้ายนี้ แต่การแข่งขันรุนแรงมากเราจึงตัดสินใจเลือกใช้ราคานี้ เมื่อเทียบราคานี้แล้วถือว่างานนี้เป็นงานที่ยากและเวลาสั้นเพียง 26 เดือนเท่านั้น และคิดว่าจะไม่ขาดทุน ส่วนค่าKคำนวณยากมากเพราะการก่อสร้างใช้เวลาถึง2ปี ซึ่งจะต้องมีการบริการจัดการที่ดี โดยเราจะล็อกราคาวัสดุไว้ล่วงหน้า ซึ่งเมื่อมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการก็จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายวัสดุทันที "แหล่งข่าว กล่าว

ขณะที่แหล่งจากบริษัท ซิโน-ไทยฯ กล่าวว่า บริษัทประมูลได้ทั้งหมด 3 งาน ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 5-7% โดยงานนี้ถือเป็นงานของราชการงานแรกที่ได้ในปีนี้ ส่วนราคาที่ประมูลได้ คิดเผื่อราคาวัสดุไว้แล้ว แม้จะไม่มีค่าKให้ก็ตาม

" ถึงเราจะได้ 3 งาน แต่ก็สู้อิตาเลี่ยนฯไม่ได้ ที่ได้งานเดียวแต่ราคาสูงกว่า"แหล่งจากกล่าวและว่า

โครงการดังกล่าวได้ออกบอนด์ไปแล้ว 10,300 ล้านบาท ที่เหลืออีก 9,000 ล้านบาท จะออกไตรมาส 3 ระยะเวลา 7,10,15,20 ปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาด ซึ่งบอนด์ที่ออกไปก่อนคิดดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 7.35%

"การประมูลครั้งนี้ทำให้เราได้ราคาที่ต่ำกว่าราคากลาง 1,029 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เครดิตของเราแข็งแกร่งขึ้น"