อีซี่บาย เตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนปีนี้อีก 2 พันล้านบาท หวังขยายธุรกิจเติบโตกว่า 50 % ขั้นต้นเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม พร้อมเจรจากับพันธมิตรที่สนใจร่วมลงทุน ยันเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยภายในปีนี้ รอเกณฑ์ควบคุมนอนแบงก์ขากธปท.ชัดเจนก่อน
นายคัทซูฮิโกะ มาโดะโนะ ประธานกรรมการ บมจ.อีซี่บาย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า จะต้องเลื่อนแผนการดังกล่าวไปเป็นปี 2550 จากเดิมที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้
เนื่องจากบริษัทยังต้องรอความชัดเจนในแนวนโยบายการควบคุมสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์(นอน-แบงก์)ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทด้วย
"การเลื่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่ได้มาจากความไม่แน่นอนในปัจจัยทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของแนวทางการควบคุมนอนแบงก์ของแบงก์ชาติ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งคาดว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะออกมาในปีหน้า และหากมีเกณฑ์ออกมามาชัดเจนเมื่อไหร่ บริษัทก็คงพร้อมที่จะดำเนินการเข้าจดทะเบียนเช่นกัน"นายคัทซูฮิโกะกล่าว
ทั้งนี้ ภายในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาทเป็น 2,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในขณะเดียวกันก็ได้เปิดโอกาสให้กับพันธมิตรที่สนใจเข้าร่วมลงทุนกับริษัทด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาอยู่ ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุนจะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ D/E ของบริษัทฯ
ลดเหลือ 6.5 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 9 เท่า โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าหนี้ประมาณ 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ระยะยาวประมาณ 60 % และหนี้ระยะสั้น 40 %
สำหรับเป้าการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโต 40% จากปัจจุบันที่มีขนาดพอร์ตสินเชื่อ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯจะพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่าและจะขยายสัดส่วนลูกค้าในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น รวมถึงเจาะฐานลูกค้าระดับบนด้วย โดยเล็งเป้าหมายลูกค้าระดับเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะเป็นกลุ่มเดียวกับธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า รวมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอื่นๆด้วย ปัจจุบันฐานลูกค้าของบริษัทฯกรุงเทพและปริมณฑลสัดส่วน 60 % ที่เหลือ 40 % เป็นลูกค้าต่างจังหวัด
ออกบาทบอนด์ 3,000 ล้านบาท ชำระหนี้และขยายธุรกิจ
นายแกรี่ นิวแมน Citigroup Country Officer of Thailand ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ บมจ.อีซี่ บาย กล่าวว่า อีซี่ บายได้ออกหุ้นมีประกันเสนอขายให้กับนักลงทุนประเภทสถาบันในวงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดที่ 1 วงเงิน 2,784 ล้านบาท ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.95% ต่อปี และชุดที่ 2 วงเงิน 216 ล้านบาท ใน 6 MTHBFIX + 30 bps ซึ่งเป็นหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยในมีการใช้สิทธิ Greenshoe Option ครบจำนวนรวม 1,000 ล้านบาท
นายแกรี่กล่าวว่า การออกหุ้นกู้มีประกันดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดี โดยมียอดสั่งซื้อเกินกว่าที่จะสามารถจัดสรรให้ได้ถึง 2 เท่า โดยหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมาก
นายคัทซึฮิโกะ มาโดโนะ กล่าวว่า อีซี่บายได้รับความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ทำให้การออกหุ้นกู้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
โดยจะนำเงินที่ได้ปชำระหนี้สินระยะสั้น เพื่อเป็นการสร้างสมดุลทางการเงินในข่วงที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ประกอบกับจะนำไปปล่อยกู้เพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหุ้นกู้ดักล่าวได้รับการค้ำประกันโดยไม่เงื่อนไขและไม่อาจเพิกถอนจะบริษัทเอคอม ซึ่งเป็นบริษัทด้านสินเชื่อผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และถือหุ้นอีซี่ บายจำนวน 49% และบริษัทเอคอม จำกัด (ACOM) เป็นตลาดที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวตั้งแต่ปี 39 และถือหุ้น 15.2%โดย Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ของโลก
"การตอบรับที่ดีของนักลงทุนสถาบันเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในศักยภาพในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และหุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ในระดับที่สูงจากทริส AA ซึ่งสะท้อนความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ และมีซิตี้กรุ๊ปผู้จัดจำหน่ายด้วย" นายคัทซึฮิโกะ กล่าว
|