“ทีซีแอล” รับอานิสงส์เอฟทีเอไทย-จีน 5 ปี ภาษีนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเหลือ 0% ลั่นเปิดแนวรบเครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบปี 49 ตบเท้านำเข้าสินค้าครบทุกไลน์ ล่าสุดเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเสริมทัพ หวังยึดหัวหาดก่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าแดนมังกรเข้าไทยกว่า 10 แบรนด์ ทุ่ม 50 ล้านบาทบูมเครื่องปรับอากาศแบรนด์ติดตลาดช่วงหน้าร้อน สิ้นปีรายได้รวมพุ่ง 100% จาก 2,000 ล้านบาทปีที่แล้ว

นายเมธา โรจนชัยชนินทร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ทีซีแอล เปิดเผยว่า แผนการตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าทีซีแอล ได้เตรียมรุกตลาดประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ได้เตรียมนำเข้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนหรือหมวดเอชเอลงสู่ตลาด ประกอบด้วย ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เตารีด ตู้เย็น ฯลฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกหมวด จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้าหมวดภาพและเสียง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2548 ตามด้วยเครื่องปรับอากาศเริ่มทดลองตลาดเมื่อปลายปี 2548 นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มไอทีอยู่ในตลาดด้วย

ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทรุกตลาดในประเทศไทยมากขึ้น เป็นเพราะผลจากที่ไทยเปิดเขตเสรีการค้าระหว่างประเทศหรือเอฟทีเอกับจีน มีผลทำให้กำแพงภาษีนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนลดลงปีละประมาณ 5% จากปัจจุบันต้องเสียภาษีนำเข้า 30 % ซึ่งคาดว่าภายใน 5 ปี ภาษีนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงเหลือ 0% ดังนั้นสินค้าที่นำเข้าจากจีนมีราคาถูกลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทมีความมั่นใจศักยภาพตลาดในเมืองไทย ขณะเดียวกันการรุกทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ยังเป็นการยึดหัวหาดก่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆจากประเทศจีน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะอาศัยผลจากเอฟทีเอเข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มกว่า 10 แบรนด์ จากปัจจุบันแบรนด์จากจีนมี ไหเออร์ และทีซีแอลเท่านั้น

“เครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้าต้องเสียภาษีนำเข้า 30 % แต่สินค้าจากจีนราคาก็ยังถูกมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น อย่างเครื่องปรับอากาศถ้า 5 ปี ภาษีนำเข้าลดลง 0% เครื่องปรับอากาศ 9,000 บีทียู จากราคาปัจจุบัน 12,900 บาทเหลือเป็น 9,000 บาทก็เป็นได้ ดังนั้นมองว่าสินค้าแบรนด์ไทย อย่าง ฟิจิ ,ทาซากิ เซ็นทรัลแอร์จะอยู่ลำบากมากขึ้น ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ที่บริษัทกำลังจะเข้ามาทำตลาดถูกกว่าแบรนด์เกาหลี 5-10%”

สำหรับการทำตลาดเครื่องปรับอากาศได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลขายหรือหน้าร้อนนี้ใช้งบเกือบ 70-80 % ของงบรวมทั้งหมด โดยจะเปิดตัวเครื่องปรับอากาศ 6 รุ่น ชูโมเดลไฟติ้งแบรนด์เครื่องปรับอากาศติดผนัง พร้อมกับเน้นจุดขายประหยัดไฟ ระบบเงินผ่อน0% แจกของพรีเมียม จัดทำแคมเปญโคว์โปรโมชั่นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดอื่นของบริษัท และประการสำคัญคือการจัดแคมเปญเวิลด์คัพ กิจกรรมชิงโชคและลดราคาเริ่มเดือนมีนาคมนี้ หลังจากบริษัทได้เป็นสปอร์นเซอร์ให้กับทศภาค หรือผู้ที่ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ขณะที่ไตรมาสที่สองเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในเชิงคอปอร์เรต

ตลาดเครื่องปรับอากาศมูลค่า 12,500 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% หรือมียอดขายโดยรวมเพิ่ม 8 แสนเครื่อง โดยการแข่งขันตลาดเครื่องปรับอากาศจะมีความรุนแรงในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากเป็นฤดูกาลขายเพราะยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากหน้าร้อน 70-80% สำหรับในช่วงดังกล่าวบริษัทตั้งเป้ามียอดขาย 70 % ของรายได้กลุ่มเครื่องปรับอากาศ ซึ่งในปีนี้แรกตั้งเป้าไว้ 80,000 – 100,000 เครื่อง หรือขึ้นเป็นอันดับสี่ของตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 10% แทนที่ซัยโจ เดนกิ สิ้นปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 9% ขณะที่ผู้นำตลาด มิตซูบิชิมีส่วนแบ่ง 25% พานาโซนิค 15% แอลจี 14% และซัมซุง 7%

โดยยอดขายเครื่องปรับอากาศทีซีแอลจะมาจากต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายต่างจังหวัด 70% และกรุงเทพฯ 30% ช่วงแรกจะจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ 100 รายก่อน จากนั้นในเริ่มเข้าสู่โมเดิร์นเทรด ในเบื้องต้นที่วางไว้เป็นเพาเวอร์บาย และปี2550 บริษัทได้เตรียมนำเข้าเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์เข้าทำตลาด

สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 100% จากในปีที่ผ่านมีรายได้ 2,000 ล้านบาท โดยรายได้ปีนี้แบ่งเป็น กลุ่มหมวดภาพและเสียง 50-60% ซึ่งปัจจุบันสินค้าในกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดถึง 8% ส่วนเครื่องปรับอากาศ 20% และสินค้าไอที 20-30%