"โกลว์" เผยปี 2548 กำไรสุทธิรวมกว่า 3.8 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 1.1 พันล้านบาท หรือ 41% เหตุจากค่าใช้จ่ายลดสวนทางยอดขายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น พร้อมคาดการณ์ยอดขายปีนี้โตอีก 10% หรือเกิน 3 หมื่นล้านบาท และโตต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ด้านผู้บริหารประกาศจัดสรรเงิน 3.3 พันล้านบาท จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.25 บาท ก่อนจะปรับนโยบายให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2549 นี้ ด้านนักลงทุนขานรับข่าวดี เข้ามาลงทุนคึกคัก หนุนราคาหุ้นบวก 7.29%

นายปีเตอร์ เทอร์โมท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,865.85 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.69 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,732.95 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2.27 บาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,132.90 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.45%

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวม 28,596 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อมฯ 8,371 ล้านบาท และกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง 4,300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.40% ซึ่งนับเป็นผลกำไรสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท

สำหรับสาเหตุที่สนับสนุนให้บริษัทมีกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น สืบเนื่องจากยอดขายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดสูงขึ้น บวกกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและซ่อมบำรุงที่ลดลงจากการปฎิบัติการที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่บริษัทมีปัจจัยลบจากต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น 27% ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหลักของหน่วยผลิตทั้งสองหน่วยของบริษัท โกลว์ ไอพีพี และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำกลางปี 2548

"ผลงานในปี 2548 นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของกำไรท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจ"

นายเทอร์โมท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายโครงการส่วนขยายในกลุ่มธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน 2 โครงการ โดยเริ่มดำเนินการผลิตเมื่อเดือนมกราคมและเดือนธันวาคมปี 2548 ด้วยกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 78 เมกะวัตต์และ ไอน้ำรวม 140 ตันต่อชั่วโมง โดยกำลังผลิตทั้งหมดมีสัญญาซื้อขายกับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2549 นั้น บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการลดลงของต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินและค่าขนส่ง ยอดขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น บริษัท โกลว์ ไอพีพี ไม่มีแผนซ่อมบำรุงหลัก (จนถึงปี 2551) การเดินเครื่องตามปกติของ โกลว์ ไอพีพี โดยที่จะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงหลัก (จนถึงปี 2551) รวมทั้งต้นทุนการเงินที่ลดลงจากการหาหนี้ใหม่ชำระหนี้เดิมปรับโครงสร้างหนี้ (Refinancing) ของโกลว์ ไอพีพี ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

สำหรับระยะกลางภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า บริษัทคาดว่าธุรกิจจะเติบโตต่อไปด้วยการเพิ่มขึ้นของยอดขายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม ตามการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และซึ่งจะนำไปสู่การขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน และการเติบโตของธุรกิจไอพีพี ซึ่งเงินลงทุนสำหรับรองรับการเติบโตดังกล่าว จะได้มาจากกระแสเงินสดระยะยาวที่มั่นคงของกลุ่มโกลว์

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น บริษัทจึงเตรียมที่จะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละประมาณ 2.25 บาท หรือรวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 3,300 ล้านบาท รวมทั้งคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัตินโยบายการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งจะเริ่มจ่ายในปี 2549 เป็นต้นไป

"การจ่ายเงินปันผลที่ค่อนข้างสูงครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อแผนการขยายงานและการลงทุนของบริษัทในอนาคต เนื่องจากบริษัทมีแหล่งเงินทุนไว้รองรับเพียงพอ รวมทั้งในระยะยาวกลุ่มบริษัทโกลว์จะจัดการโครงสร้างเงินทุนให้มีความเหมาะสม เพื่อสร้างมูลค่าหุ้นและผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น"

ส่วนในปี 2549 นั้น บริษัทคาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีรายได้ประมาณ 28,596 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เนื่องจากทางบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขนาดไฟฟ้า 38 เมกะวัตต์ และขนาดไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง ขณะเดียวกันการที่บริษัทเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตที่ 1.7 พันเมกะวัตต์จากการไม่หยุดพักซ่อมบำรุงทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเต็มอัตรา

ด้านนายศิโรตม์ วิชยาภัย อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ GLOW กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 1/2549 มีมติรับทราบการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทย่อยรวม 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท บริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด ที่อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 6.42 บาท และลดทุนจดทะเบียนลงไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นผลสอดคล้องในแผนการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินภายในระหว่างกลุ่มบริษัท

บริษัท โกลว์ จำกัด มีมติให้ชำระเงินค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบอีกจำนวนประมาณ 12 ล้านบาทให้กับบริษัทโกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด และให้เข้าชื่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัดอีกเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินภายในกลุ่มบริษัทและเรียกให้ชำระค่าหุ้นส่วนที่ยังชำระไม่ครบอีกเป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท เพื่อให้ครบจำนวนที่ได้เพิ่มทุนไว้แล้วด้วย

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (21 ก.พ.) ได้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างคึกคักหลังจากที่มีการประกาศผลการดำเนินงานและจ่ายเงินปันผลในช่วงเช้า โดยเปิดซื้อขายที่ราคาต่ำสุด 25.50 บาท และปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่วปิดทำการซื้อขายในราคาสูงสุดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1.80 บาท หรือ 7.29% มูลค่าการซื้อขายติดอันดับ 5 ของหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดประจำวันรวมทั้งสิ้น 390.62 ล้านบาท